นราธิวาส - กกต.จ.นราธิวาส เผยกำหนดแผนการจัดการเลือกตั้งไว้พร้อมรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 ก.พ.57 แล้ว สำหรับผู้ที่เพิ่งย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาใหม่ ไม่ถึง 90 วัน นับถึงวันเลือกตั้ง สามารถไปลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. ล่วงหน้าที่เลือกตั้งกลางของจังหวัดที่ท่านทำงาน หรืออาศัยอยู่ได้
วันนี้ (17 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนิรุทธ์ ขะหมิมะ หัวหน้างานจัดการเลือกตั้ง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนราธิวาส (กกต.จ.นราธิวาส) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กกต.จ.นราธิวาส ได้จัดทำแผนการเตรียมจัดการเลือกตั้งไว้แล้ว เพื่อให้พร้อมจัดการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ซึ่ง มี 4 เขตเลือกตั้ง รวม 897 หน่วยเลือกตั้ง มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งรวม 509,170 คน
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ทำงาน หรืออาศัยอยู่คนละจังหวัดกับที่ผู้นั้นมีชื่อในทะเบียนบ้าน หรือผู้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้ง (เพิ่งย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาใหม่) ไม่ถึง 90 วัน นับถึงวันเลือกตั้ง สามารถไปลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. ล่วงหน้า ณ ที่เลือกตั้งกลางของจังหวัดที่ท่านทำงาน หรืออาศัยอยู่ได้ แต่ต้องยื่นคำขอลงทะเบียนเพื่อขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าต่อนายทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเบียนท้องถิ่น ตั้งแต่บัดนี้ถึง วันที่ 2 มกราคม 2557 และลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตจังหวัด โดยยื่นคำขอลงทะเบียนเพื่อขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าต่อนายทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเบียนท้องถิ่น ตั้งแต่วันที่ 13-17 มกราคม 2557
นอกจากนี้ นายอนิรุทธ์ ยังกล่าวถึงประเด็นความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ จนอาจมีการไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และการโนโหวต โดยระบุว่า หากผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่ไปใช้สิทธิ และไม่ได้แจ้งเหตุที่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งก็จะเสียสิทธิทางการเมือง 3 ประการ คือ 1.เสียสิทธิการยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. 2.เสียสิทธิการสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส., ส.ว., สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น และสิทธิได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว. 3.เสียสิทธิการสมัครรับเลือกเป็นกำนัน และผู้ใหญ่บ้าน สิทธิทั้ง 3 ประการ จะได้กลับคืนมาเมื่อไปใช้สิทธิการเลือกตั้งอย่างใดอย่างหนึ่งในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งระดับชาติ หรือท้องถิ่น และหากมีผู้สมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้นๆ เพียง 1 คน ก็จะต้องได้รับคะแนนเสียงร้อยละ 20 จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งหากมีผู้มาใช้สิทธิเกินร้อยละ 20 แต่มีคะแนนโนโหวตมากกว่า บุคคลดังกล่าวก็จะไม่ได้รับการเลือกตั้ง
นายอนิรุทธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่ห่วงปัญหากรณีที่อาจต้องเลื่อนวันเลือกตั้งหรือไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้เพราะประเด็นปัญหาทางการเมือง เนื่องจาก กกต. มีหน้าที่จัดการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามกำหนดเวลาที่มีการประกาศไว้ ดังนั้น จึงได้เตรียมแผนสำรองกรณีมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นไว้พร้อมแล้ว
วันนี้ (17 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนิรุทธ์ ขะหมิมะ หัวหน้างานจัดการเลือกตั้ง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนราธิวาส (กกต.จ.นราธิวาส) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กกต.จ.นราธิวาส ได้จัดทำแผนการเตรียมจัดการเลือกตั้งไว้แล้ว เพื่อให้พร้อมจัดการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ซึ่ง มี 4 เขตเลือกตั้ง รวม 897 หน่วยเลือกตั้ง มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งรวม 509,170 คน
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ทำงาน หรืออาศัยอยู่คนละจังหวัดกับที่ผู้นั้นมีชื่อในทะเบียนบ้าน หรือผู้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้ง (เพิ่งย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาใหม่) ไม่ถึง 90 วัน นับถึงวันเลือกตั้ง สามารถไปลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. ล่วงหน้า ณ ที่เลือกตั้งกลางของจังหวัดที่ท่านทำงาน หรืออาศัยอยู่ได้ แต่ต้องยื่นคำขอลงทะเบียนเพื่อขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าต่อนายทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเบียนท้องถิ่น ตั้งแต่บัดนี้ถึง วันที่ 2 มกราคม 2557 และลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตจังหวัด โดยยื่นคำขอลงทะเบียนเพื่อขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าต่อนายทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเบียนท้องถิ่น ตั้งแต่วันที่ 13-17 มกราคม 2557
นอกจากนี้ นายอนิรุทธ์ ยังกล่าวถึงประเด็นความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ จนอาจมีการไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และการโนโหวต โดยระบุว่า หากผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่ไปใช้สิทธิ และไม่ได้แจ้งเหตุที่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งก็จะเสียสิทธิทางการเมือง 3 ประการ คือ 1.เสียสิทธิการยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. 2.เสียสิทธิการสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส., ส.ว., สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น และสิทธิได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว. 3.เสียสิทธิการสมัครรับเลือกเป็นกำนัน และผู้ใหญ่บ้าน สิทธิทั้ง 3 ประการ จะได้กลับคืนมาเมื่อไปใช้สิทธิการเลือกตั้งอย่างใดอย่างหนึ่งในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งระดับชาติ หรือท้องถิ่น และหากมีผู้สมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้นๆ เพียง 1 คน ก็จะต้องได้รับคะแนนเสียงร้อยละ 20 จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งหากมีผู้มาใช้สิทธิเกินร้อยละ 20 แต่มีคะแนนโนโหวตมากกว่า บุคคลดังกล่าวก็จะไม่ได้รับการเลือกตั้ง
นายอนิรุทธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่ห่วงปัญหากรณีที่อาจต้องเลื่อนวันเลือกตั้งหรือไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้เพราะประเด็นปัญหาทางการเมือง เนื่องจาก กกต. มีหน้าที่จัดการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามกำหนดเวลาที่มีการประกาศไว้ ดังนั้น จึงได้เตรียมแผนสำรองกรณีมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นไว้พร้อมแล้ว
