นราธิวาส - อุทกภัยที่เกิดขึ้นในจังหวัดนราธิวาส กลับเข้าสู่ภาวะปกติทั้งหมดแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดในช่วงวันที่ 15-19 ธันวาคม นี้ จนท.เร่งช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย
วันนี้ (13 ธ.ค.) นายมาหามะพีสกรี วาแม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส กล่าวถึงสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในพื้นที่ว่า ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำสายบุรี แม่น้ำบางนรา และแม่น้ำโก-ลก ระดับน้ำลดลงต่ำกว่าตลิ่งทั้งหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 15-19 ธันวาคมนี้ ยังจำเป็นต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า จะมีฝนฟ้าคะนองกระจายร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงบริเวณที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ และที่ลาดเชิงเขาต้องติดตามการรายงานอากาศ และการแจ้งเตือนจากเจ้าหน้าที่ด้วย
ส่วนการเกิดอุทกภัยในครั้งนี้ มีพื้นที่ซึ่งประกาศเป็นพื้นที่เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวม 9 อำเภอ 41 ตำบล 191 หมู่บ้าน จำนวน 11,206 ครัวเรือน รวม 35,135 คน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 4 หลัง รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน สัตว์ปีกตาย และสูญหาย 91 ตัว บ่อปลา 11 บ่อ บ่อน้ำ 89 บ่อ ถนน 20 สาย คอสะพาน 5 แห่ง ดินสไลด์ 10 จุด ขณะที่พื้นที่ทางการเกษตรกำลังอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป ส่วนราษฎรจาก 4 ชุมชน ที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก ซึ่งได้รับผลกระทบจากอุทกภัยจนต้องอพยพไปอาศัยที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยโรงเรียนเทศบาล 4 ล่าสุด ได้เดินทางกลับบ้านทั้งหมดแล้ว
สำหรับการให้ความช่วยเหลือจากอุทกภัยที่เกิดขึ้น มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ได้นำถุงยังชีพพระราชทาน พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคมามอบให้แก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยอย่างทั่วถึง
ด้านนายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยคณะทำงานในทุกระดับทั้งระดับจังหวัด ระดับอำเภอ รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือ โดยลงพื้นที่ไปมอบถุงยังชีพ ข้าวกล่อง น้ำดื่ม ยารักษาโรค ตลอดจนเรือท้องแบนสำหรับการอพยพผู้ประสบอุทกภัยไปอยู่ในที่ปลอดภัย พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ยังได้ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือ และฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยอย่างเร่งด่วนด้วย
วันนี้ (13 ธ.ค.) นายมาหามะพีสกรี วาแม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส กล่าวถึงสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในพื้นที่ว่า ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำสายบุรี แม่น้ำบางนรา และแม่น้ำโก-ลก ระดับน้ำลดลงต่ำกว่าตลิ่งทั้งหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 15-19 ธันวาคมนี้ ยังจำเป็นต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า จะมีฝนฟ้าคะนองกระจายร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงบริเวณที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ และที่ลาดเชิงเขาต้องติดตามการรายงานอากาศ และการแจ้งเตือนจากเจ้าหน้าที่ด้วย
ส่วนการเกิดอุทกภัยในครั้งนี้ มีพื้นที่ซึ่งประกาศเป็นพื้นที่เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวม 9 อำเภอ 41 ตำบล 191 หมู่บ้าน จำนวน 11,206 ครัวเรือน รวม 35,135 คน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 4 หลัง รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน สัตว์ปีกตาย และสูญหาย 91 ตัว บ่อปลา 11 บ่อ บ่อน้ำ 89 บ่อ ถนน 20 สาย คอสะพาน 5 แห่ง ดินสไลด์ 10 จุด ขณะที่พื้นที่ทางการเกษตรกำลังอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป ส่วนราษฎรจาก 4 ชุมชน ที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก ซึ่งได้รับผลกระทบจากอุทกภัยจนต้องอพยพไปอาศัยที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยโรงเรียนเทศบาล 4 ล่าสุด ได้เดินทางกลับบ้านทั้งหมดแล้ว
สำหรับการให้ความช่วยเหลือจากอุทกภัยที่เกิดขึ้น มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ได้นำถุงยังชีพพระราชทาน พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคมามอบให้แก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยอย่างทั่วถึง
ด้านนายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยคณะทำงานในทุกระดับทั้งระดับจังหวัด ระดับอำเภอ รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือ โดยลงพื้นที่ไปมอบถุงยังชีพ ข้าวกล่อง น้ำดื่ม ยารักษาโรค ตลอดจนเรือท้องแบนสำหรับการอพยพผู้ประสบอุทกภัยไปอยู่ในที่ปลอดภัย พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ยังได้ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือ และฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยอย่างเร่งด่วนด้วย