ผบ.ฉก.ยะลาปลื้ม “โครงการพาคนกลับบ้าน” หลังมีผู้แสดงตนกว่าร้อยราย รัฐพร้อมดูแล

ยะลา - ผบ.ฉก.ยะลา เผยสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ลดลง หลังมีผู้แสดงตนร่วมกว่าร้อยราย กับโครงการ “พาคนกลับบ้าน” ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เจ้าหน้าที่รัฐพร้อมดูแลคุ้มครอง เพื่อสร้างสันติอย่างยั่งยืน

วันนี้ (13 ธ.ค.) หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47 ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการอำเภอยะหา และส่วนราชการในพื้นที่ จ.ยะลา ได้จัดพิธีเปิดอาคารสำนักงานศูนย์ปฏิบัติการ โดยมี พ.ต.เกษม ธนาภรณ์ ผบ.ฉก.ยะลา เป็นประธานในพิธี ซึ่งมีนาย ปรีชา ชนะกิจกำจร นายอำเภอยะหา พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง ผู้บังคับหน่วย พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ ทั้งนี้ การเปิดอาคารสำนักงานศูนย์ปฏิบัติการในครั้งนี้ถือเป็นศูนย์นำร่องในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งจะเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นอย่างอบอุ่นให้แก่ผู้ที่แสดงตนสมัครใจเข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน

พ.ต.เกษม กล่าวว่า การทำโครงการพาคนกลับบ้าน เป็นการเปิดโอกาส และอำนวยความสะดวกด้านกระบวนยุติธรรมให้แก่ผู้ที่มีความเห็นต่างจากรัฐ ยุติการต่อสู้ด้วยวิธีรุนแรง ให้หันมาแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธีร่วมกับภาครัฐ ทั้งนี้ การที่รัฐเปิดโอกาสให้ผู้ที่เห็นต่างจากรัฐ และเคยต่อสู้ด้วยวิธีรุนแรงได้ออกมาแสดงตนเพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ตามความต้องการของคนในพื้นที่

โดยการเปิดโอกาสให้ผู้ที่เห็นต่างจากรัฐได้แสดงความคิดเห็น และมีส่วนร่วมในการกำหนดแนวทางตามวิถีชีวิตที่ประชาชนต้องการ ซึ่งในห้วงที่ผ่านมา ในพื้นที่ อ.ยะหา มีผู้มารายงานตัวแสดงตน จำนวน 98 ราย ซึ่งหลังจากที่ทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ดำเนินโครงการดังกล่าวพบว่าเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ลดลง ประชาชนในพื้นที่ให้ความร่วมมือกับภาครัฐมากขึ้น สำหรับในการให้ความดูแลผู้ที่ออกมารายงานตัวนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปส่งเสริมด้านอาชีพเพื่อให้สามารถมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ส่วนด้านความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินนั้นก็พร้อมดูแลอย่างเต็มที่เช่นกัน

นายอำเภอยะหา กล่าวว่า จากนโยบายของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กำหนดให้ศูนย์ปฏิบัติการ อ.ยะหา ได้ดำเนินงานตามโครงการพาคนกลับบ้าน ด้วยการน้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา และนโยบายสานใจสู่สันติมาขับเคลื่อน ส่งผลให้ผู้ที่มีความเห็นต่าง ที่มีหมายพระราชกฤษฎีกาฉุกเฉินเกิดความเข้าใจ เชื่อมั่นต่ออำนาจรัฐได้ออกมาแสดงตน และให้ความร่วมมือกับภาครัฐ

ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอยะหา ได้ตระหนัก และเห็นความสำคัญของกลุ่มบุคคลดังกล่าวในการสร้างสันติอย่างยั่งยืน จึงได้เร่งรัดเพื่อถอนหมายพระราชกฤษฎีกาฉุกเฉินให้แล้วเสร็จโดยเร็ว พร้อมทั้งหาทางช่วยเหลือ พัฒนาคุณภาพชีวิต และยกระดับรายได้ให้แก่บุคคลเหล่านี้รวมทั้งครอบครัว ให้บรรลุเป้าหมายของทางจังหวัดที่ว่า อยู่เย็นเป็นสุข อยู่ดีกินดี และอยู่รอดปลอดภัย