นราธิวาส - สภาวะน้ำท่วม จ.นราธิวาส ขยายวงกว้าง 5 อำเภอ หลังน้ำป่าที่ไหลทะลักเข้ามาสมทบที่แม่น้ำ 3 สายหลัก มีปริมาณน้ำขังสูง 160 ซม. ส่งผลทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 8,058 ครัวเรือน รวม 15,788 คน
วันนี้ (6 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่ จ.นราธิวาส บรรยากาศโดยทั่วไปบนท้องฟ้ายังคงมีเมฆฝนแพร่กระจายปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ และมีฝนตกในบางพื้นที่ไม่หนักเหมือน 5 วันที่ผ่านมา แต่น้ำป่าบนเทือกเขาสันกาลาคีรี ซึ่งมีต้นกำเนิดในพื้นที่ อ.สุคิริน ได้ไหลทะลักลงมาสมทบในแม่น้ำสายหลัก 3 สาย คือ แม่น้ำสุไหงโก-ลก บางนรา และสายบุรีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลัก 3 สายที่ล้นตลิ่งอยู่แล้วมีปริมาณน้ำท่วมขังสูงโดยเฉลี่ยจากวานนี้อยู่ในระดับ 1-1.60 เมตร และได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือน และพื้นที่ทางการเกษตรของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ราบลุ่มเป็นวงกว้าง 59 หมู่บ้าน 10 ชุมชน 19 ตำบล ของ 5 อำเภอ
โดยแยกเป็น อำเภอระแงะ 17 หมู่บ้าน 6 ตำบล อำเภอรือเสาะ 12 หมู่บ้าน 4 ตำบล อำเภอแว้ง 5 หมู่บ้าน 4 ตำบล อำเภอสุไหงโก-ลก 10 ชุมชน 1 ตำบล อำเภอจะแนะ 25 หมู่บ้าน 4 ตำบล ซึ่งมีระดับน้ำท่วมขังสูงโดยเฉลี่ยในภาพรวมของ 5 อำเภอ 50-160 ซม. โดยอำเภอสุไหงโก-ลก มีระดับน้ำท่วมขังสูงที่สุดของจังหวัด อยู่ในระดับ 1-1.60 ม. ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากอยู่แนวริมตลิ่งของแม่น้ำสุไหงโก-ลก
ซึ่งสภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอครั้งนี้ ส่งผลทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 8,058 ครัวเรือน รวม 15,788 คน บ้านได้รับความเสียหายบางส่วน 2 หลัง จากผลกระทบของน้ำป่าที่ไหลหลากจากเทือกเขาในพื้นที่บ้านจะแนะ ม.2 ต.จะแนะ และในพื้นที่บ้านสาเม๊าะ ม.8 ต.ดุซงญอ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เดินทางเข้าไปช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแล้ว แต่ยังไม่ทราบชื่อเจ้าของบ้านทั้ง 2 หลัง นอกจากนี้ ยังมีดินบริเวณเชิงเขาในพื้นที่ ต.จะแนะ ได้สไลด์ลงทับเส้นทาง 10 จุด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปเพื่อทำการขุดลอกให้ออกจากผิวถนน เพื่อที่ประชาชนสามารถใช้ยานพาหนะสัญจรไปมาได้ดังเดิมแล้ว
