ปัตตานี - ผู้ว่าราชการ จ.ปัตตานี มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาให้แก่ญาติเหยื่อโจรใต้ 4 ศพ และดำเนินการจัดส่งศพภูมิลำเนา จ.นครศรีธรรมราช ส่วนอีกรายที่สูญหายยังไม่ทราบชะตากรรม ด้านคดี จนท.กำลังส่งปลอกกระสุนปืนหาวิถีกระสุนเทียบเคียงอาวุธปืน คาด 2-3 วันรู้ผล มั่นใจเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อตอบโต้เจ้าหน้าที่
เวลา 13.30 น. วันนี้ (4 ธ.ค.) ที่ว่าการอำเภอหนองจิก จ.ปัตตานี นายวิทยา พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิต ทั้ง 4 ราย กรณีเหตุกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงชาวบ้านที่เข้าไปจับปูแสม หรือปูเปรี้ยว เสียชีวิต 4 ราย และสูญหาย 1 ราย คนร้ายยังได้ขโมยรถยนต์ไปด้วย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนผู้เสียชีวิตมาร่วมให้กำลังใจ
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้มอบเงิน จำนวน 500,000 บาท ให้แก่ครอบครัว และทายาทของทั้ง 4 ราย ประกอบด้วย นายณัฐพล ปะนะรัตน์ อายุ 24 ปี นายธรรมนูญ ปานแย้ม อายุ 50 ปี นายจรัญ สุขสำราญ อายุ 44 ปี และนายพิศาล บางเมือง อายุ 40 ปี พร้อมทั้งยังได้มอบเงินทำขวัญให้แก่ผู้รอดชีวิตอีก 2 ราย รายละ 10,000 บาท ส่วนทายาทของผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย ทางจังหวัดจะดูแลในเรื่องการศึกษาอย่างเต็มที่ พร้อมยังทั้งช่วยเหลือในการส่งศพผู้เสียชีวิตทั้งหมดกลับไปบำเพ็ญกุศลตามหลักศาสนาตามภูมิลำเนาที่ จ.นครศรีธรรมราช มีเพียงศพของ นายธรรมนูญ ที่กลับไปบำเพ็ญกุศลที่ จ.นราธิวาส
ส่วนความคืบหน้าในการค้นหา นายสุธา สุขเอียด ซึ่งหลังเกิดเหตุจนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันค้นหาบริเวณที่เกิดเหตุรัศมี 1 กิโลเมตร และงมหาในคลอง และป่าชายเลนก็ยังไม่พบตัว ขณะที่การติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุนั้น ได้มีการส่งปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 และ 9 มม. ไปตรวจวิถีกระสุนเพื่อหาหลักฐานเทียบเคียงอาวุธปืนว่าเคยนำไปก่อเหตุที่ไหนมาบ้าง ซึ่งเมื่อผลออกมาก็จะรู้ทันทีว่าคนร้ายเป็นกลุ่มใด และฝีมือใคร คาดอีก 2-3 วันจะรู้ผล
ส่วนการติดตามรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ ตอนเดียว สีบรอนซ์เทา ทะเบียน บว 5164 นครศรีธรรมราช ที่คนร้ายขโมยไปนั้น ชุดสืบสวนการแกะรอยและประสานไปยัง สภ.ทุกแห่งใน 3 จังหวัด โดยสังเกตกระทะล้อสีดำ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันคนร้ายนำไปดัดแปลงสภาพก่อนจะนำไปก่อเหตุร้ายในพื้นที่ ส่วนสาเหตุเชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเพื่อตอบโต้เจ้าหน้าที่ เนื่องจากที่ผ่านมา ได้มีการปฏิบัติการเชิงรุกวิสามัญคนร้ายหลายราย และจับกุมยึดอาวุธจำนวนมาก