นครศรีธรรมราช - พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ อัญเชิญถุงยังชีพพระราชทาน จำนวน 2,000 ชุด ไปมอบให้แก่ราษฎรที่ประสบภัยอุทกภัยที่ จ.นครศรีธรรมราช
วันนี้ (25 พ.ย.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้นายประสงค์ พิทูรกิจจา เลขาธิการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยนายกองเอกวิลาศ รุจิวัฒนพงศ์ ประธานฝ่ายบรรเทาทุกข์ และคณะจากส่วนกลางอัญเชิญถุงยังชีพพระราชทาน จำนวน 2,000 ชุด ไปมอบให้แก่ราษฎรผู้ประสบภัยอุทกภัยที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัด นายศิริพัฒ พัฒกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และคณะกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมให้การต้อนรับ
โดยเวลา 10.00 น. เลขาธิการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมรมราชูปถัมภ์ มอบถุงยังชีพพระราชทานให้แก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัยที่ศาลาประชาคมอำเภอจุฬาภรณ์ จำนวน 1,000 ชุด โดยมีนายณรงค์ สุขจันทร์ นายอำเภอจุฬาภรณ์ กล่าวรายงานถึงสภาพความเสียหาย และความเดือดร้อนว่า ได้เกิดเหตุการณ์อุทกภัย ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2556 ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 6 ตำบล 29 หมู่บ้าน 2,425 ครัวเรือน จำนวน 6,898 คน ปัจจุบัน น้ำได้ลดระดับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว เนื่องจากสภาพพื้นที่ส่วนใหญ่ของอำเภอจุฬาภรณ์เป็นที่ราบเชิงเขา เมื่อเกิดอุทกภัยน้ำจะไหลหลากอย่างรวดเร็ว เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ราษฎรไม่สามารถขนย้ายสิ่งของได้ทันจึงได้รับความเสียหาย
จากนั้นเวลา 13.30 น. เลขาธิการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมรมราชูปถัมภ์ และคณะได้มอบถุงยังชีพพระราชทานให้แก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัยที่ศาลาประชาคมอำเภอชะอวด จำนวน 1,000 ชุด โดยมีนายศักดิ์ชัย ชัยเชื้อ นายอำเภอชะอวด กล่าวรายงานถึงสภาพความเสียหาย และความเดือดร้อนที่ประชาชนในพื้นที่ได้รับจากเหตุการณ์อุทกภัย ว่า อำเภอชะอวดได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 19-23 พฤศจิกายน 2556 โดยเฉพาะวันที่ 21 พฤศจิกายน 2556 วัดปริมาณน้ำฝนได้เกือบ 200 มิลลิเมตร มีการสะสมของปริมาณน้ำจำนวนมาก เป็นสาเหตุให้เกิดอุทกภัยอย่างเฉียบพลัน ในพื้นที่ 10 ตำบล
ส่งผลให้ราษฎรประสบภัย 21,116 ครัวเรือน 85,213 คน ถนนเสียหาย 98 สาย คอสะพานชำรุด 4 แห่ง พื้นที่เกษตรเสียหายประมาณ 35,000 ไร่ บ่อเลี้ยงปลา 80 บ่อ สัตว์เลี้ยง 1,500 ตัว โรงเรียนเสียหาย 34 โรง แต่ไม่มีผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยในครั้งนี้ ซึ่งสภาพทั่วไปในขณะนี้พื้นที่ตอนบนที่ราบสูง ระดับน้ำได้ลดลงจนกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว แต่ในพื้นที่ราบลุ่ม ได้แก่ ตำบลชะอวดตอนล่าง ตำบลบ้านตูลตอนล่าง ตำบลขอนหาดตอนล่าง และตำบลเคร็ง น้ำยังคงท่วมต่อไปอีกระยะหนึ่ง
