ยะลา - ผู้อำนวยการโครงการชลประทานยะลา ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมสถานีสูบน้ำที่สันเขื่อนกั้นน้ำแม่น้ำปัตตานี ระบุสถานการณ์น้ำในยะลายังไม่วิกฤต พร้อมแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงลุ่มแม่น้ำสายบุรี แม่น้ำปัตตานี ให้เตรียมขนย้ายสิ่งของ และติดตามข่าวการเตือนภัยอย่างใกล้ชิด
เมื่อเวลา 09.20 น. วันนี้ (22 พ.ย.) ที่บริเวณแนวสันเขื่อนกั้นน้ำ สวนศรีเมือง ริมแม่น้ำปัตตานี ในเขตเทศบาลนครยะลา นายอนุรักษ์ ธีระโชติ ผู้อำนวยการโครงการชลประทาน ยะลา ได้นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสภาพของสันเขื่อนริมแม่น้ำปัตตานี เพื่อตรวจสอบแนวสันเขื่อนกั้นน้ำ ซึ่งเป็นจุดหลักที่จะป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมภายในเขตเทศบาลนครยะลา หากเกิดภาวะฝนตกหนักในพื้นที่ติดต่อกันหลายวัน และตรวจสอบประตูระบายน้ำตลอดแนวสันเขื่อนที่มีระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตร
โดยเฉพาะที่สถานีสูบน้ำ B ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครยะลา ที่ทำหน้าที่ในการสูบน้ำ เพื่อระบายน้ำที่ท่วมขังในเขตเทศบาลนครยะลาออกจากพื้นที่ โดยพบว่าสถานีสูบน้ำดังกล่าวอยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ดำเนินการเร่งสูบน้ำที่ขังอยู่ในพื้นที่ออกเพื่อรองรับน้ำฝนที่จะตกลงมาใหม่
นายอนุรักษ์ ธีระโชติ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานยะลา กล่าวว่า จากการตรวจสอบสภาพน้ำของจังหวัดยะลา ในวันนี้พบว่ามีแนวโน้มลดลง เนื่องจากสภาพฝนเมื่อคืนที่ผ่านมา (21 พ.ย.) จนถึงเช้าวันนี้ มีแนวโน้มลดลง ส่งผลให้ระดับในวันนี้พบว่าต่ำกว่าระดับวิกฤต แต่อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาในจังหวัดยะลา ส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำป่าไหลหลากรุนแรงเข้าท่วมถนนชนบทหลายสาย บางสายสูงถึง 50 เซนติเมตร
จากการตรวจวัดสภาพน้ำเมื่อเช้าที่ผ่านมา (22 พ.ย.) พบว่า ต่ำกว่าระดับวิกฤต แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงฤดูมรสุมนี้คาดว่าจะยังคงมีพายุ และฝนลงมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน ถึงธันวาคม ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก และอุทกภัยได้หลายพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดยะลา ได้มีการประสานงาน รวมทั้งแจ้งเตือนไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อชี้แจงประชาชนให้รับทราบถึงสถานการณ์ และแนวโน้มของการเกิดปัญหาอุทกภัย
ผู้อำนวยการโครงการชลประทานยะลา กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในขณะนี้ทางจังหวัดได้มีการประชุมเพื่อความพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยเรียบร้อยแล้ว พร้อมกันนี้ โครงการชลประทานยะลาได้ส่งเครื่องสูบน้ำเข้าไปช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่แล้ว โดยเฉพาะที่โครงการฟาร์มตัวอย่างวังพญา-ท่าธง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวน 3 เครื่อง ซึ่งคิดว่าหากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาในพื้นที่อยู่ในปริมาณที่ไม่มากนัก เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนก็สามารถรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวได้
แต่อย่างไรก็ตาม ขอแจ้งเตือนไปยังพี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มบริเวณ 2 ฝั่งแม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำปัตตานี ให้ระมัดระวังตนเองเตรียมในการขนย้ายสิ่งของไว้ในที่สูง พร้อมทั้งติดตามข่างการพยากรอากาศ และการแจ้งเตือนอย่างใกล้ชิด