ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ศพส.จังหวัดภูเก็ต ดึงทุกฝ่ายร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติดในเขตชุมชนเทศบาลนครภูเก็ต ขณะที่ผู้นำชุมชน ขอทางจังหวัด เทศบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้มงวดบ้านเช่า ห้องแถว แหล่งมั่วสุมของกลุ่มวัยรุ่น
วันนี้ (20 พ.ย.) ที่ห้องประชุมชั้น 3 เทศบาลนครภูเก็ต นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมการแก้ไขปัญหายาเสพติดในเขตชุมชนเทศบาลนครภูเก็ต ซึ่งทางศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดภูเก็ต (ศพส.จ.ภูเก็ต) จัดขึ้น เพื่อรับทราบข้อมูล และแนวทางป้องกัน และปราบปรามปัญหายาเสพติดจากทุกฝ่ายเกี่ยวข้อง เพื่อนำไปปรับแผนการทำงานด้านการป้องกันและปราบปรามปัญหายาเสพติดของจังหวัดภูเก็ต ต่อไป โดยมี นายเสรี พาณิชย์กุล ปลัดจังหวัดภูเก็ต น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต นายกวี ตันสุคตานนท์ รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ข้าราชการเทศบาลนครภูเก็ต ตลอดจนผู้นำชุมชนทั้ง 18 ชุมชน ในเขตเทศบาลนครภูเก็ต และคณะทำงานศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดภูเก็ตเข้าร่วม
นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดในเขตเทศบาลนครภูเก็ต มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น เนื่องจากการกระจายตัวของกลุ่มผู้ค้ารายย่อยที่พัฒนาจากผู้เสพมาเป็นผู้ค้า ซึ่งจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดเปิด มีจำนวนประชากรเพิ่มสูงขึ้นในทุกๆปี เป็นศูนย์รวมของคนทุกจังหวัด จึงทำให้ควบคุมดูแลปัญหาดังกล่าวได้ค่อนข้างยาก มีการเพิ่มขึ้นอย่างหนาแน่นของอาคาร บ้านเช่า ห้องแถวทำให้เป็นแหล่งมั่วสุมของวัยรุ่น ทำให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบได้ยากลำบาก สำหรับยาเสพติดที่พบมากสุดในพื้นที่ชุมชนภูเก็ต คือ ยาไอซ์ เนื่องจากพกพาง่าย ทำลายง่าย ออกฤทธิ์แรง และมีแนวโน้มจะลุกลามเข้าสู่กลุ่มเยาวชน นักเรียนเพิ่มมากขึ้น
“ผู้นำชุมชนต้องมีหน้าที่ประสานงาน และสามารถบูรณาการการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ในการควบคุมดูแลลูกบ้านให้ห่างไกลจากยาเสพติดอย่างเข้มงวด สร้างเป็นชุมชนเข้มแข็ง ให้ชุมชนเปรียบเสมือนวัคซีนที่ป้องกันปัญหายาเสพติด สร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน พร้อมทั้งร่วมมือกันแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หมดไปจากชุมชน” นายจำเริญ กล่าว
ด้าน น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดได้แพร่กระจายลุกลามไปยังชุมชนอย่างรวดเร็ว ครอบครัวจึงเป็นสถาบันที่สำคัญในการเฝ้าระวัง เข้มงวดกวดขันบุตรหลานให้มีความตระหนักถึงปัญหา และผลกระทบของยาเสพติดให้ได้มากที่สุด เสริมสร้างให้มีกิจกรรมในสถาบันครอบครัว รวมไปถึงการสร้างภูมิคุ้มกันภายในชุมชนอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ตัวแทนผู้นำชุมชน 18 ชุมชน กล่าวว่า อยากให้เจ้าหน้าที่ทั้งส่วนของจังหวัด เทศบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการบ้านเช่า ห้องแถวให้เข้มงวดในเรื่องของการเก็บหลักฐานการเช่า บัตรประจำตัวประชาชน เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบหากเกิดปัญหา เพราะผู้เช่าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวัยรุ่น เยาวชน บ่อยครั้งที่มีการรวมตัวมั่วสุม จะสร้างความวุ่นวายให้แก่คนในชุมชน แต่ไม่สามารถจับตัวมาดำเนินคดีได้เนื่องจากไม่มีหลักฐานในการติดตามตัว
อย่างไรก็ตาม จังหวัด และเทศบาล ควรให้ความสำคัญในการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจลงตรวจสอบในชุมชุมชนให้บ่อยขึ้น ให้เจ้าหน้าที่เอาจริงเอาจังในการจับกุมผู้เสพ และผู้ค้าไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป