นราธิวาส - ผอ.สถานีอุตุนิยมวิทยานราธิวาส เตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยรับมือฝนตกหนัก ล่าสุด อ.ระแงะ มีปริมาณน้ำฝนสะสมสูงสุด 171.8 มิลลิเมตร ด้าน ปภ.นราธิวาส เผยเตรียมความพร้อมบรรเทาสาธารณภัยทุกระดับแล้ว ประชาชนสามารถขอความช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชม.
วันนี้ (19 พ.ย.) นายมณี อุทรักษ์ ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยานราธิวาส เปิดเผยว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง ทางตะวันออกของประเทศมาเลเซีย และกำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกอย่างช้าๆ ผ่านประเทศมาเลเซียตอนบน และภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย จะทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่างมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ โดยที่บริเวณ จ.พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จะมีฝนตกหนักในช่วงวันที่ 19-23 พ.ย.2556 ส่วนใน จ.นราธิวาส มีปริมาณฝนสะสมในเดือนพฤศจิกายนมากที่สุด ดังนี้ อ.ระแงะ 171.8 มิลลิเมตร อ.ตากใบ 162 มิลลิเมตร และ อ.ยี่งอ 155.6 มิลลิเมตร
จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะที่ลาดเชิงเขาระมัดระวังอันตรายที่เกิดจากฝนตกหนัก และลมกระโชกแรงในช่วงเวลาดังกล่าว สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างจะมีกำลังแรงขึ้น ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว
ขณะเดียวกัน นายมาหามะพีสกรี วาแม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ในส่วนของมาตรการในการป้องกัน และเฝ้าระวังอุทกภัยในพื้นที่เสี่ยง มีการเตรียมความพร้อมในทุกระดับแล้ว ดังนั้น ในห้วงนี้หากมีอุทกภัยในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็สามารถแจ้งเตือน และให้ความช่วยเหลือได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง
วันนี้ (19 พ.ย.) นายมณี อุทรักษ์ ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยานราธิวาส เปิดเผยว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง ทางตะวันออกของประเทศมาเลเซีย และกำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกอย่างช้าๆ ผ่านประเทศมาเลเซียตอนบน และภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย จะทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่างมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ โดยที่บริเวณ จ.พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จะมีฝนตกหนักในช่วงวันที่ 19-23 พ.ย.2556 ส่วนใน จ.นราธิวาส มีปริมาณฝนสะสมในเดือนพฤศจิกายนมากที่สุด ดังนี้ อ.ระแงะ 171.8 มิลลิเมตร อ.ตากใบ 162 มิลลิเมตร และ อ.ยี่งอ 155.6 มิลลิเมตร
จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะที่ลาดเชิงเขาระมัดระวังอันตรายที่เกิดจากฝนตกหนัก และลมกระโชกแรงในช่วงเวลาดังกล่าว สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างจะมีกำลังแรงขึ้น ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว
ขณะเดียวกัน นายมาหามะพีสกรี วาแม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ในส่วนของมาตรการในการป้องกัน และเฝ้าระวังอุทกภัยในพื้นที่เสี่ยง มีการเตรียมความพร้อมในทุกระดับแล้ว ดังนั้น ในห้วงนี้หากมีอุทกภัยในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็สามารถแจ้งเตือน และให้ความช่วยเหลือได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง
