ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจทุ่งทอง จ.ภูเก็ต โชว์ผลงานจับ 6 ผู้ต้องหา ครอบครองไม้กฤษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืน ยึดของกลางชื้นไม้กฤษณากว่า 50 กิโลกรัม เตรียมส่งขายให้นายทุน คาดมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 3-4 แสนบาท
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (18 พ.ย.) พ.ต.อ.ฐิติรัฐ อาษากิจ ผกก.สภ.ทุ่งทอง พ.ต.ท.สมคิด บุญรัตน์ รอง ผกก.ป.สภ.ภูเก็ต พ.ต.ต.ประมวล จ่ายกระโทก สวป.สภ.ทุ่งทอง พ.ต.ต.ชวภณ สันติศาสนกุล สว.สส.สภ.ทุ่งทอง ร่วมกันสอบปากคำผู้ต้องหาซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งทอง จับกุมได้เมื่อเวลา 08.30 น. วันนี้ (18 พ.ย.) ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ จำนวน 2 หลัง บริเวณถนนกะทู้-นาเกาะ ม.5 ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ตรวจข้ามโรงเรียนอนุบาลเทศบาลกะทู้ ซึ่งประกอบด้วย นายเวียงชัย ศรีจันทร์ อายุ 34 ปี ชาว จ.สระแก้ว นายสนั่น กอดกิ่ง อายุ 42 ปี ชาว จ.นราธิวาส นายอนุชา สมสูง อายุ 38 ปี ชาว จ.ยะลา นายถนัด เพชรฤทธิ์ อายุ 45 ปี นายอุดร ศรีจันทร์ อายุ 32 ปี ชาว จ.สระแก้ว
พร้อมของกลางชิ้นไม้กฤษณารวม 53.2 กิโลกรัม สิ่วพร้อมด้าม 20 ด้าม ขวาน จำนวน 2 ด้าม มีด 1 เล่ม แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันกระทำความผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ฐานมีของป่าหวงห้าม ชิ้นไม้กฤษณาไว้ในครอบครอง 0.5 กิโลกรัม นอกจากนั้น ยังมีผู้ต้องหาอีก 1 คน คือนายวิรัช ซุ้นสุวรรณ อายุ 38 ปี ชาว จ.สงขลา พร้อมของกลางอาวุธปืนสั้น .45 มม. จำนวน 1 กระบอก แมกกาซีน จำนวน 1 อัน กระสุนปืน จำนวน 5 นัด แจ้งข้อกล่าวหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
สำหรับพฤติกรรมการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ต. ประมวล จ่ายกระโทก สวป.สภ.ทุ่งทอง พ.ต.ต.ชวภณ สันติศาสนกุล สว.สส.สภ.ทุ่งทอง ร.ต.อ.สันติสุข คำแหง รอง สว.สส.สภ.ทุ่งทอง ร.ต.องปัญญา ดีอ่อน รอง สวป.สภ.ทุ่งท่อง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งจากสาบลับว่า มีการลักลอบขนชิ้นไม้กฤษณามาเก็บไว้ที่บ้านเช้าไม่มีเลขที่บริเวณถนนกะทู้-นาเกาะ ม.5 ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หลังรับแจ้งชุดจับกุมได้ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดภูเก็ตเพื่อเข้าตรวจค้น เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบ นายเวียงชัย ศรีจันทร์ ทราบชื่อภายหลังแสดงตัวเป็นผู้ครอบครองบ้านหลังดังกล่าว และนำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น จากการตรวจค้นพบของกลางบางส่วนถูกเก็บไว้ในห้องต่างๆ ของตัวบ้าน โดยมีนายอนุชา นายถนัด นายสนั่น นายอุดร รับสารภาพว่า ของกลางทั้งหมดเป็นของกลางที่ร่วมกันเข้าป่าบริเวณเขื่อนบางวาดหมู่ 7 ต.กะทู้เก็บมาเพื่อเอาไปจำหน่ายให้แก่พ่อค้าที่มารับซื้อ และยอมรับว่ายังมีชิ้นไม้กฤษณาอีกจำนวนหนึ่งอยู่ที่บ้านเช้าของ นายวิรัช ซึ่งเป็นบ้านไม่มีเลขที่เช่นเดียวกัน
หลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอหมายค้นของศาลจังหวัดภูเก็ต เพื่อเข้าตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว โดยมีนายวิรัช ซุ้นสุวรรณ แสดงตัวเป็นผู้ครอบครองบ้าน จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนสั้นขนาด 45 มม.จำนวน 1 กระบอก โดยบรรจุกระสุนในแมกกาซีนประกอบอยู่กับตัวปืน ซุกซ่อนอยู่ใต้หมอนภายในห้องเช่าดังกล่าว ซึ่งนายวิรัช ยอมรับว่าอาวุธปืนดังกล่าวเป็นของตัวเอง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งทอง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามถนัด เพชรฤทธิ์ 1 ในผู้ต้องหา ทราบว่า ไม้กฤษณาทั้งหมดเป็นไม้กฤษณาที่ขึ้นไปเก็บมาจากป่าบริเวณหลังเขื่อนบางวาด เพื่อนำมาแกะให้เหลือเพียงแกนไม้ ส่งขายให้แก่นายทุนที่มารับซื้อ ทราบเพียงชื่อเล่น ชื่อนายสร เพื่อส่งไปขายต่อที่ประเทศมาเลเซีย โดยของกลางทั้งหมดคาดว่าจะขายได้ประมาณ 300,000-400,000 บาท โดยแกนไม้กฤษณาทั้งหมดยังอยู่ในเกรดที่ต่ำจึงขายได้ในราคาไม่มากนัก ซึ่งส่วนใหญ่จะซื้อกันอยู่ในราคาประมาณ 10,000 -25,000 บาท ขึ้นอยู่กับเกรดของแกนไม้ถ้ามีน้ำมันหอมมากราคาก็จะสูงขึ้น สำหรับไม้กฤษณาในภูเก็ตนั้นพบว่ามีจำนวนมาก รวมทั้งกลุ่มที่เข้าไปหาแกนไม้กฤษณาก็มีหลายกลุ่ม
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (18 พ.ย.) พ.ต.อ.ฐิติรัฐ อาษากิจ ผกก.สภ.ทุ่งทอง พ.ต.ท.สมคิด บุญรัตน์ รอง ผกก.ป.สภ.ภูเก็ต พ.ต.ต.ประมวล จ่ายกระโทก สวป.สภ.ทุ่งทอง พ.ต.ต.ชวภณ สันติศาสนกุล สว.สส.สภ.ทุ่งทอง ร่วมกันสอบปากคำผู้ต้องหาซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งทอง จับกุมได้เมื่อเวลา 08.30 น. วันนี้ (18 พ.ย.) ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ จำนวน 2 หลัง บริเวณถนนกะทู้-นาเกาะ ม.5 ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ตรวจข้ามโรงเรียนอนุบาลเทศบาลกะทู้ ซึ่งประกอบด้วย นายเวียงชัย ศรีจันทร์ อายุ 34 ปี ชาว จ.สระแก้ว นายสนั่น กอดกิ่ง อายุ 42 ปี ชาว จ.นราธิวาส นายอนุชา สมสูง อายุ 38 ปี ชาว จ.ยะลา นายถนัด เพชรฤทธิ์ อายุ 45 ปี นายอุดร ศรีจันทร์ อายุ 32 ปี ชาว จ.สระแก้ว
พร้อมของกลางชิ้นไม้กฤษณารวม 53.2 กิโลกรัม สิ่วพร้อมด้าม 20 ด้าม ขวาน จำนวน 2 ด้าม มีด 1 เล่ม แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันกระทำความผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ฐานมีของป่าหวงห้าม ชิ้นไม้กฤษณาไว้ในครอบครอง 0.5 กิโลกรัม นอกจากนั้น ยังมีผู้ต้องหาอีก 1 คน คือนายวิรัช ซุ้นสุวรรณ อายุ 38 ปี ชาว จ.สงขลา พร้อมของกลางอาวุธปืนสั้น .45 มม. จำนวน 1 กระบอก แมกกาซีน จำนวน 1 อัน กระสุนปืน จำนวน 5 นัด แจ้งข้อกล่าวหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
สำหรับพฤติกรรมการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ต. ประมวล จ่ายกระโทก สวป.สภ.ทุ่งทอง พ.ต.ต.ชวภณ สันติศาสนกุล สว.สส.สภ.ทุ่งทอง ร.ต.อ.สันติสุข คำแหง รอง สว.สส.สภ.ทุ่งทอง ร.ต.องปัญญา ดีอ่อน รอง สวป.สภ.ทุ่งท่อง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งจากสาบลับว่า มีการลักลอบขนชิ้นไม้กฤษณามาเก็บไว้ที่บ้านเช้าไม่มีเลขที่บริเวณถนนกะทู้-นาเกาะ ม.5 ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หลังรับแจ้งชุดจับกุมได้ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดภูเก็ตเพื่อเข้าตรวจค้น เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบ นายเวียงชัย ศรีจันทร์ ทราบชื่อภายหลังแสดงตัวเป็นผู้ครอบครองบ้านหลังดังกล่าว และนำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น จากการตรวจค้นพบของกลางบางส่วนถูกเก็บไว้ในห้องต่างๆ ของตัวบ้าน โดยมีนายอนุชา นายถนัด นายสนั่น นายอุดร รับสารภาพว่า ของกลางทั้งหมดเป็นของกลางที่ร่วมกันเข้าป่าบริเวณเขื่อนบางวาดหมู่ 7 ต.กะทู้เก็บมาเพื่อเอาไปจำหน่ายให้แก่พ่อค้าที่มารับซื้อ และยอมรับว่ายังมีชิ้นไม้กฤษณาอีกจำนวนหนึ่งอยู่ที่บ้านเช้าของ นายวิรัช ซึ่งเป็นบ้านไม่มีเลขที่เช่นเดียวกัน
หลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอหมายค้นของศาลจังหวัดภูเก็ต เพื่อเข้าตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว โดยมีนายวิรัช ซุ้นสุวรรณ แสดงตัวเป็นผู้ครอบครองบ้าน จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนสั้นขนาด 45 มม.จำนวน 1 กระบอก โดยบรรจุกระสุนในแมกกาซีนประกอบอยู่กับตัวปืน ซุกซ่อนอยู่ใต้หมอนภายในห้องเช่าดังกล่าว ซึ่งนายวิรัช ยอมรับว่าอาวุธปืนดังกล่าวเป็นของตัวเอง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งทอง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามถนัด เพชรฤทธิ์ 1 ในผู้ต้องหา ทราบว่า ไม้กฤษณาทั้งหมดเป็นไม้กฤษณาที่ขึ้นไปเก็บมาจากป่าบริเวณหลังเขื่อนบางวาด เพื่อนำมาแกะให้เหลือเพียงแกนไม้ ส่งขายให้แก่นายทุนที่มารับซื้อ ทราบเพียงชื่อเล่น ชื่อนายสร เพื่อส่งไปขายต่อที่ประเทศมาเลเซีย โดยของกลางทั้งหมดคาดว่าจะขายได้ประมาณ 300,000-400,000 บาท โดยแกนไม้กฤษณาทั้งหมดยังอยู่ในเกรดที่ต่ำจึงขายได้ในราคาไม่มากนัก ซึ่งส่วนใหญ่จะซื้อกันอยู่ในราคาประมาณ 10,000 -25,000 บาท ขึ้นอยู่กับเกรดของแกนไม้ถ้ามีน้ำมันหอมมากราคาก็จะสูงขึ้น สำหรับไม้กฤษณาในภูเก็ตนั้นพบว่ามีจำนวนมาก รวมทั้งกลุ่มที่เข้าไปหาแกนไม้กฤษณาก็มีหลายกลุ่ม