กระบี่ - ผู้ว่าราชการจังกระบี่ นำข้าราชการถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ “วันพระบิดาแห่งฝนหลวง” เพื่อร่วมแสดงความจงรักภักดี
วันนี้ (14 พ.ย.) ที่ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลเมืองกระบี่ นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน 35 หน่วยงาน ร่วมประกอบพิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เนื่องในวันพระบิดาแห่งฝนหลวง ประจำปี 2556
ด้วยในวันนี้ถือเป็นวันครบรอบปีที่ 58 นับจากวันที่ 14 พฤศจิกายน 2498 ซึ่งเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงมีพระราชดำริที่จะคิดค้นวิจัยหาวิธีการทำฝนหลวง เพื่อแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากของเกษตรกร และประชาชนทั่วไปที่ประสบภัยแล้ง รวมทั้งปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรน้ำของประเทศ จนเกิดเป็นโครงการพระราชดำริฝนหลวงสืบมาจนถึงปัจจุบัน
และคณะรัฐมนตรี ได้มีมติเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2545 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ในฐานะทรงเป็นพระบิดาแห่งฝนหลวง และได้กำหนดให้วันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันพระบิดาแห่งฝนหลวง เพื่อจารึกไว้เป็นสำคัญในประวัติศาสตร์ชาติไทย และเป็นวันสำคัญของปวงชนชาวไทยที่จะได้แสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบิดาแห่งฝนหลวง
จังหวัดกระบี่ จึงได้จัดให้มีพิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ พระบิดาแห่งฝนหลวงขึ้นในวันนี้ ทั้งได้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปได้รับรู้ และทราบซึ้งในพระราชกรณียกิจที่ทรงบำเพ็ญคุณประโยชน์อย่างอเนกอนันต์ต่อประชาชนในโครงการพระราชดำริฝนหลวง
ในโอกาสนี้ นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้กล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ พระบิดาแห่งฝนหลวง มีใจความตอนหนึ่งว่า เนื่องด้วยวันที่ 14 พฤศจิกายน 2498 เป็นวันที่พระบิดาแห่งฝนหลวง ทรงมีพระราชดำริที่จะนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในการบังคับเมฆให้เกิดเป็นฝน จนเกิดเป็นเทคโนโลยีฝนหลวงที่ขจัดปัดเป่าความทุกข์ยากให้แก่พสกนิกรของพระองค์ ที่ประสบภัยแล้ง และเป็นองค์ประกอบในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศจวบจนปัจจุบัน พสกนิกรชาวไทยทั้งมวลต่างสำนึก และตระหนักว่า พระบิดาแห่งฝนหลวง ทรงตรากตรำพระวรกายในการทรงงานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตบำบัดทุกข์บำรุงสุข ของราษฎรผู้ยากไร้ด้อยโอกาสทั่วทุกภาคของประเทศให้มีความอยู่ดีกินดีขึ้น
ด้วยทรงมีพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ตลอดจนพระอัจฉริยภาพ และพระวิริยอุตสาหะ ในการทุ่มเทให้แก่การประดิษฐ์คิดค้นวิจัย และพัฒนาจนเกิดเป็นโครงการพระราชดำริมากมายนานัปการ ซึ่งรวมถึงโครงการพระราชดำริฝนหลวง อันก่อให้เกิดประโยชน์คุณูปการอเนกอนันต์แก่ปวงชนชาวไทย ด้วยพระเมตตาธรรม และพระจริยธรรมที่ล้ำเลิศยิ่งในพระมหากรุณาธิคุณ คุ้มเกล้าคุ้มกระหม่อมนี้ เหล่าข้าพระพุทธเจ้าปลื้มปีติ และสำนึกในพระเมตตาธิคุณอย่างมิรู้เสื่อมคลาย
วันนี้ (14 พ.ย.) ที่ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลเมืองกระบี่ นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน 35 หน่วยงาน ร่วมประกอบพิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เนื่องในวันพระบิดาแห่งฝนหลวง ประจำปี 2556
ด้วยในวันนี้ถือเป็นวันครบรอบปีที่ 58 นับจากวันที่ 14 พฤศจิกายน 2498 ซึ่งเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงมีพระราชดำริที่จะคิดค้นวิจัยหาวิธีการทำฝนหลวง เพื่อแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากของเกษตรกร และประชาชนทั่วไปที่ประสบภัยแล้ง รวมทั้งปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรน้ำของประเทศ จนเกิดเป็นโครงการพระราชดำริฝนหลวงสืบมาจนถึงปัจจุบัน
และคณะรัฐมนตรี ได้มีมติเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2545 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ในฐานะทรงเป็นพระบิดาแห่งฝนหลวง และได้กำหนดให้วันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันพระบิดาแห่งฝนหลวง เพื่อจารึกไว้เป็นสำคัญในประวัติศาสตร์ชาติไทย และเป็นวันสำคัญของปวงชนชาวไทยที่จะได้แสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบิดาแห่งฝนหลวง
จังหวัดกระบี่ จึงได้จัดให้มีพิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ พระบิดาแห่งฝนหลวงขึ้นในวันนี้ ทั้งได้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปได้รับรู้ และทราบซึ้งในพระราชกรณียกิจที่ทรงบำเพ็ญคุณประโยชน์อย่างอเนกอนันต์ต่อประชาชนในโครงการพระราชดำริฝนหลวง
ในโอกาสนี้ นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้กล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ พระบิดาแห่งฝนหลวง มีใจความตอนหนึ่งว่า เนื่องด้วยวันที่ 14 พฤศจิกายน 2498 เป็นวันที่พระบิดาแห่งฝนหลวง ทรงมีพระราชดำริที่จะนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในการบังคับเมฆให้เกิดเป็นฝน จนเกิดเป็นเทคโนโลยีฝนหลวงที่ขจัดปัดเป่าความทุกข์ยากให้แก่พสกนิกรของพระองค์ ที่ประสบภัยแล้ง และเป็นองค์ประกอบในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศจวบจนปัจจุบัน พสกนิกรชาวไทยทั้งมวลต่างสำนึก และตระหนักว่า พระบิดาแห่งฝนหลวง ทรงตรากตรำพระวรกายในการทรงงานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตบำบัดทุกข์บำรุงสุข ของราษฎรผู้ยากไร้ด้อยโอกาสทั่วทุกภาคของประเทศให้มีความอยู่ดีกินดีขึ้น
ด้วยทรงมีพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ตลอดจนพระอัจฉริยภาพ และพระวิริยอุตสาหะ ในการทุ่มเทให้แก่การประดิษฐ์คิดค้นวิจัย และพัฒนาจนเกิดเป็นโครงการพระราชดำริมากมายนานัปการ ซึ่งรวมถึงโครงการพระราชดำริฝนหลวง อันก่อให้เกิดประโยชน์คุณูปการอเนกอนันต์แก่ปวงชนชาวไทย ด้วยพระเมตตาธรรม และพระจริยธรรมที่ล้ำเลิศยิ่งในพระมหากรุณาธิคุณ คุ้มเกล้าคุ้มกระหม่อมนี้ เหล่าข้าพระพุทธเจ้าปลื้มปีติ และสำนึกในพระเมตตาธิคุณอย่างมิรู้เสื่อมคลาย