ยะลา - ชาว ต.ลิดล อ.เมือง เข้าร้องเรียนหลังได้รับผลกระทบจากการระเบิดหินอุตสาหกรรมของโรงโม่หิน หวาดกลัวหินจะถล่มทับบ้าน ซ้ำยังโดนข่มขู่จากอิทธิพลมืด วอนผู้เกี่ยวข้องช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 59/1 บ้านบาตูปูเตะ ม.3 ต.ลิดล อ.เมือง จ.ยะลา หลังได้รับการร้องเรียนจาก นายอาลียะห์ ยูโซ๊ะ ว่า ได้รับผลกระทบ และมีความเดือดร้อนจากการระเบิดหินอุตสาหกรรมของโรงโม่หิน บริษัทศิลาเขาแดง จำกัด โดยบ้านของตนเองอยู่หลังเขาที่ทางบริษัทฯ ได้รับการสัมปทานทำโครงการเหมืองหินดังกล่าว
จากการลงพื้นที่พบว่า บ้านของนายอาลียะห์ อยู่ห่างจากเขาที่ทำการระเบิดหินเพียงไม่กี่ร้อยเมตร โดยนายอาลียะห์ และเพื่อนบ้านอีก 3 ครอบครัว เกือบ 20 ชีวิต ต้องผจญกับฝุ่นละอองขณะที่มีการระเบิดหิน และมีเสียงดัง ต้องอยู่กับความหวาดกลัวว่าวันใดจะมีการถล่มของหินมาทับบ้าน นอกจากนี้ ผลกระทบของการระเบิดหิน แรงระเบิดส่งความสั่นสะเทือนทำให้ผนังบ้าน ตัวบ้านมีรอยแตกร้าว
โดยนายอาลียะห์ และเพื่อนบ้านได้เล่าให้ฟังว่า ที่ผ่านมา ได้ไปร้องเรียนต่อเจ้าของบริษัทฯ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และนายก อบต. มาหลายครั้งแล้ว และมีการเข้ามาสำรวจบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ ซึ่งทาง อบต. ลิดล ได้ให้คำตอบว่าไม่สามารถที่จะช่วยเหลืออะไรได้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ ทางบริษัทศิลาเขาแดง ผู้รับเหมาสัมปทานได้มีการทำบันทึกข้อตกลง กับชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียง เมื่อวันที่ 6 ต.ค.2553 ไปแล้ว โดยภายในบันทึกฉบับนี้ระบุว่า ต้องให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน และร่างกายก่อนจึงจะชดใช้ให้
ทางชาวบ้านผู้ร้องเรียนบอกว่า หลังจากมีการระเบิดหินถึง 4 ครั้ง ในช่วงตั้งแต่เดือน ตุลาคม จนถึงวันนี้ เมื่อมีการระเบิดหินแต่ละครั้งชาวบ้านเองต้องหนีหัวซุกหัวซุน มีฝุ่นละออง และช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝน ตนเอง และเพื่อนบ้านก็กลัวว่าหินจะถล่มลงมาใส่บ้าน ในเวลาช่วงกลางวันยังสามารถหนีได้ แต่ถ้าช่วงเวลานอนกลางคืนก็ไม่สามารถจะหนีทัน ที่ผ่านมา หินเคยหล่นลงมาช่วงเวลา 23.00 น. และเวลา 01.00 น.เป็นเวลา 3 ปี ที่ต้องอยู่กับความหวาดกลัว
ส่วนบ้านที่ตนอยู่ก็มีมาตั้งแต่รุ่นปู่ รุ่นย่า ซึ่งขณะนี้ตนเอง และเพื่อนบ้านได้รับผลกระทบจากผลการดำเนินการของบริษัทฯ จึงอยากให้ทางบริษัทฯ ที่รับเหมาสัมปทานเห็นถึงความเดือดร้อนอยากจะให้มาซื้อที่ดิน ซึ่งตนเอง และชาวบ้านอีก 2 ครอบครัว ก็ยินดีย้ายออกไปทันทีตามที่ได้ตกลงกัน แต่เมื่อชาวบ้านไปร้องเรียนก็จะถูกผู้มีอิทธิพลเข้ามาข่มขู่ทุกครั้ง จนเกิดความหวาดกลัวต่ออันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งเรื่องของภูเขาหินที่อาจจะถล่มมาทับบ้าน และการถูกข่มขู่จากอิทธิพลมืด
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลลิดล เพื่อพบกับ นายมะสุกรี เจะแซ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลลิดล เพื่อสอบถามถึงเรื่องที่ชาวบ้านได้มาร้องเรียน แต่ก็พบเพียงเจ้าหน้าที่นิติกร และปลัด อบต.ซึ่งได้ให้ข้อมูลว่า ทาง อบต.ก็ไมได้นิ่งนอนใจ หลังจากมีการมาร้องเรียนแล้วก็ได้ส่งทางเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ และได้มีการเชิญเจ้าของบริษัทศิลาเขาแดง ผู้รับสัมปทานมาพูดคุย โดยทางเจ้าของบริษัทศิลาเขาแดง ผู้รับสัมปทาน ได้ชี้แจงว่า ทางบริษัทเองได้ให้วิศวกรเข้ามาตรวจสอบ และวางแผนการดำเนินการในการระเบิดเขาหินลูกดังกล่าว เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อชาวบ้านน้อยที่สุด โดยทางวิศวกรได้กำหนดให้มีการระเบิด และดำเนินการตามขั้นตอนวิธีการทางวิศวกรรม และบริษัทเองก็ได้มีการทำหนังสือสัญญากับชาวบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตามระเบียบของการสัมปทานระเบิดหินว่าจะต้องมีการสำรวจเขตชุมชนที่อยู่อาศัยให้ห่างจากบริเวณสัมปทานอย่างน้อย 5 กิโลเมตร แต่บ้านของชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนอยู่ห่างเพียง 300 เมตร ซึ่งไม่เป็นไปตามเกณฑ์ จนทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน และต้องร้องเรียนขอความเป็นธรรม