ระดมความเห็นสำรวจพื้นที่พบพลับพลึงธารในระนอง

ระนอง - สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย เปิดเวทีระดมความคิดเห็นโครงการสำรวจ และจัดทำขอบเขตพื้นที่แหล่งที่พบพลับพลึงธารในจังหวัดระนอง หลังพบแหล่งพลับพลึงธารลดลงเหลือแค่ 3 ไร่เศษเท่านั้น

วันนี้ (5 พ.ย.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย จัดเวทีประชุมสัมมนาเพื่อระดมความคิดเห็นต่อโครงการสำรวจ และจัดทำขอบเขตพื้นที่แหล่งที่พบพลับพลึงธาร ในจังหวัดระนอง โดยมีหน่วยงานเกี่ยวข้อง ประชาชนชาวระนอง เข้าร่วม ณ โรงแรมไอเฟล จ.ระนอง

ดร.ขวัญฤทัย บุญร่วมแก้ว ในฐานะหัวหน้าโครงการสำรวจ และจัดทำขอบเขตพื้นที่และฐานข้อมูลแหล่งที่พบพลับพลึงธาร กล่าวว่า พลับพลึงธารเป็นพืชน้ำเฉพาะถิ่นที่อยู่ในสถานะถูกคุกคามอย่างหนัก และใกล้สูญพันธุ์ โดยสามารถพบได้ที่บริเวณ อ.กะเปอร์ อ.สุขสำราญ จ.ระนอง และ อ.คุระบุรี อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เท่านั้น จากการสำรวจพบว่าพลับพลึงธารลดลงจาก 10.73 ไร่ เหลือเพียง 3.41 ไร่ ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการขุดหัวพลับพลึงธารเพื่อการส่งออก การสร้างสิ่งก่อสร้างที่ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของการไหลของน้ำ รวมทั้งขาดมาตรการทางกฎหมายในการคุ้มครอง และอนุรักษ์แหล่งที่อยู่อาศัยของพลับพลึงธาร

ทางด้านนายสุชาติ บุญร่วมแก้ว ในฐานะที่ปรึกษาโครงการ กล่าวว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่เพื่อระดมความคิดเห็นของหน่วยงานภาครัฐ เอกชน สถานศึกษา หน่วยงานท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ ร่วมแสดงความคิดเห็นต่อร่างกฎกระทรวง ตามความในพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 เนื่องจากแหล่งที่พบพลับพลึงธารมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพ และเป็นพื้นที่ที่มีระบบนิเวศตามธรรมชาติที่อาจถูกทำลายได้ง่าย รวมถึงยังไม่ได้ถูกประกาศกำหนดให้เป็นเขตอนุรักษ์ตามกฎหมายใด จึงเห็นว่าควรออกกฎกระทรวงเพื่อให้แหล่งที่พบพลับพลึงธารเป็นพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม สำหรับในที่ประชุมระดมความคิดเห็นในครั้งนี้ ได้มีหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชนให้ความคิดเห็นกับร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไข หรือเพิ่มเติมเนื้อหา โดยทางเจ้าหน้าที่จะนำความคิดเห็นไปดำเนินการแก้ไขปรับปรุงร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ต่อไป