ตรัง - สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ตรัง เปิดใจผ่านเฟซบุ๊ก ระบุผลกระทบจากการชุมนุมของม็อบยาง-ปาล์ม ซึ่งปิดถนนที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ กระทบต่อภาคธุรกิจท่องเที่ยวจนทำให้เกิดความเสียหาย มียอดจองโรงแรม และร้านอาหาร แต่นักท่องเที่ยวค้างเติ่งเดินทางมาไม่ถึงตรัง
วันนี้ (31 ต.ค.) นายประทีป โจ้งทอง นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ตรัง เปิดเผยผ่านทางเฟซบุ๊กของสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ตรัง ว่า ในช่วง 2-3 วันมานี้ บรรยากาศการท่องเที่ยวของ จ.ตรัง เงียบเหงามาก และมีนักท่องเที่ยวจำนวนน้อย ซึ่งแตกต่างไปจากช่วงก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะที่บริเวณท่าเรือปากเมง ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ซึ่งตอนเช้าจะเป็นจุดลงเรือเพื่อไปเที่ยวทะเลตรัง และตอนเย็นจะกลับมาพักในเมือง หรือบางกลุ่มก็พักที่เกาะ ทำให้แต่ละวันจะมีรถทัวร์รับส่งนักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 10 คัน
ส่วนรถตู้ และรถส่วนตัวก็เต็มลานจอดรถ วันนี้นักท่องเที่ยวเดินทางมาแล้ว แต่มาไม่ถึง จ.ตรัง เพราะติดอยู่ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จนสร้างความเสียหายให้แก่การท่องเที่ยวโดยภาพรวม และหลายฝ่ายมีความเดือดร้อน
ทั้งนี้ เนื่องจากมีการมัดจำเรือแล้วแต่ไม่ได้ลงเรือ มัดจำโรงแรมแล้วแต่ไม่ได้เข้าพัก หรือจองร้านอาหารแล้วไม่ได้มากิน ซึ่งยังไม่รวมความเสียหายของการประมง อุตสาหกรรม รถห้องเย็น หรือสินค้าการเกษตรอื่นๆ ที่ต้องใช้ถนนสายนี้เช่นกัน จึงขอวิงวอนให้กลุ่มผู้เคลื่อนไหวเรื่องสินค้าทางการเกษตรได้โปรดนึกถึงภาคธุรกิจอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ซึ่งมีความสำคัญเป็นอันดับ 1 ของภาคใต้ เพราะเป็นภาคเดียวที่มีทุกอย่างครบ เนื่องจากมีทะเลทั้ง 2 ฝั่ง ไม่ว่าจะเป็นฝั่งอันดามัน หรือฝั่งอ่าวไทย อีกยังไม่ต้องแย่งชิงกับประเทศใดในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกัน เพราะมีความโดดเด่นกว่าที่อื่น จึงไม่อยากให้เหตุการณ์ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต้องมากระทบต่อคนภาคใต้ และขอวิงวอนให้มีความเห็นใจด้วย