สุราษฎร์ธานี - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 แถลงกวาดล้างอาวุธปืนช่วง 2 วันที่ผ่านมา ได้ของกลางกว่า 200 กระบอก จับกุมผู้ต้องหา 125 ราย ขณะที่นครศรีฯ ครองแชมป์พบอาวุธปืน 126 กระบอก รองลงมาเป็นจังหวัดสุราษฎร์ธานี
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (31 ต.ค.) ที่ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 แถลงข่าวถึงผลการระดมกำลังกวาดล้างอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด ระหว่างวันที่ 28-30 ต.ค.2556 โดยสามารถจับกุมคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืนได้ 125 คดี ได้ผู้ต้องหา 125 ราย อาวุธปืนทั้งสิ้นกว่า 200 กระบอก กระสุนปืนจำนวน 1,412 นัด ในจำนวนดังกล่าวมีอาวุธปืนสงคราม (คาร์บิน) 1 กระบอก กระสุน 72 นัด ซึ่งพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช จับกุมได้มากที่สุด เป็นอาวุธปืน 126 กระบอก รองลงมาเป็น จ.สุราษฎร์ธานี
สำหรับการผลการกวาดล้างอาวุธปืนในครั้งนี้นั้น สามารถจับกุมผู้ต้องหาคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ โดยเฉพาะคดีถล่มป้อมยามศูนย์การเรียนรู้ยาวพารา ในท้องที่ สภ.ลำทับ จ.กระบี่ มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ คือ นายสุธรรม ผลหิรัญ นายอมร รักบุตร และนายสมชาย แก้วเพชร ซึ่งมีสาเหตุมาจากขัดผลประโยชน์เกี่ยวกับการดูแลผลผลิตทางการเกษตรของศูนย์ฯ เบื้องต้นตำรวจออกหมายจับกุมผู้ต้องหา 3 คน และจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน คือ นายสุรชัย นิ่มดำ ส่วนอีก 2 คนอยู่ในระหว่างการติดตามจับกุมต่อไป
ประกอบกับกับทางตำรวจยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาคดีฆ่าโหดในสวนยาง ท้องที่ สภ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี โดยผู้ตายคือ น.ส.นันทนิต จิตราภิรมณ์ อายุ 42 ปี ส่วนผู้ต้องหาคือ นางปรารมภ์ รุ่มจิตร กับนายเถลิงศักดิ์ รุ่มจิตร ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า สาเหตุมาจากการบาดหมางเรื่องที่ดินทางเข้าบ้าน
ส่วนคดีสำคัญล่าสุด คือ จับกุม นายมังกร หรือแสบ อินทร์ฉ่ำ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ธนาคารทหารไทย สาขากระบุรี จ.ระนอง ได้เงินสดทั้งสิ้น จำนวน 759,100 บาท (เหตุเกิดเมื่อเวลา 12.09 น. วันที่ 30 ต.ค.)โดยตำรวจจับกุมได้หลังเกิดเหตุเพียง 20 นาที รับสารภาพไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง และต้องการเงินจะไปเยี่ยมลูกกับพ่อที่ป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองตีบอยู่ที่ จ.นครสวรรค์
ขณะที่ พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ระบุว่า แผนการกวาดล้างครั้งนี้เป็นการกวาดล้างคดีค้างเก่า ลดปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ รวมทั้งยังเป็นการป้องปรามการก่อคดีของซุ้มมือปืน และกลุ่มผู้มีอิทธิพลต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมา ถือว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ โดยไม่ลดละที่จะปล่อยให้ผู้ก่อเหตุ และผู้ต้องหาที่ก่อคดีอาชญากรรมต่างๆ ในพื้นที่ที่รับผิดชอบหลบหนีลอยหนี ดังนั้น จึงกวดขันให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจตรา พร้อมจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีในที่สุด