นราธิวาส - พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ร่วมงานวันเด็กกำพร้า ซึ่งเป็นโครงการของ ศอ.บต.ร่วมคณะกรรมการอิสลาม จ.นราธิวาส จัดขึ้น เพื่อรำลึกเหตุการณ์สลายม็อบตากใบ พบมีเด็กกำพร้ากว่า 5,000 คน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (27 ต.ค.) ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. นายนัฐพงศ์ ศิริชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ผู้นำศาสนา หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และประชาชนชาวไทยพุทธ และไทยมุสลิม ในพื้นที่กว่า 2,000 คน ได้ร่วมงานวันเด็กกำพร้า ซึ่งเป็นโครงการศูนย์อำนวยการบริหาร จ.ชายแดนภาคใต้ และคณะกรรมการอิสลาม จ.นราธิวาส ร่วมจัดขึ้นครั้งแรก เพื่อรำลึกครบรอบวันที่ 25 ตุลาคม 47 กรณีการสลายม็อบตากใบ ภายใต้โครงการกิจกรรม “รวมหนึ่งเดียวเพื่อสร้างอนาคต”
ในการนี้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบทุนการศึกษาแก่เด็กกำพร้าจากเหตุการณ์ความไม่สงบทั้งไทยพุทธ และไทยมุสลิม รวม 92 คน เป็นเงินทั้งสิ้น 460,000 บาท พร้อมย้ำว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงได้กำหนดนโยบาย และยุทธศาสตร์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้จังหวัดชายแดนใต้มีความสงบ ความปลอดภัย ปราศจากเงื่อนไขการใช้ความรุนแรง ภายใต้ยุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา”
นอกจากนี้ ยังได้ฝากส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมมือกันช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด และมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ได้ปฏิบัติสิ่งที่ดีงาม อันจะเป็นประโยชน์แก่ชุมชน และประเทศชาติ และการเยียวยาไม่ได้เป็นแค่เพียงเงิน แต่ทุกภาคส่วนจะต้องลงติดตามเยียวยาทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ ครอบครัว ความเป็นอยู่ เพื่อให้เกิดความสันติสุข และความมั่นคงในพื้นที่
ทางด้านนายไพศาล พรหมยงค์ คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เป็นโอกาสที่ดีที่รัฐบาลมองเห็นความสำคัญปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ เพราะปัญหาความรุนแรงนับ 10 ปี มีคนสูญเสียชีวิตกว่า 6,000 คน บาดเจ็บจำนวนมาก โดยเฉพาะเหตุการณ์สลายม็อบตากใบ ครบ 9 ปี ครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ แล้วยังเกิดผลกระทบมีเด็กกำพร้าจำนวนมาก ร่วมถึงเหตุความไม่สงบอื่นๆ ต่อเนื่อง แต่ยืนว่ารัฐกำลังทำในสิ่งที่ดี และเดินถูกทางแล้ว
เพราะความสูญเสียที่เกิดขึ้นกรณีสลายม็อบตากใบ ไม่ใช่จะแค่เยียวยา แค่ 700 ล้านถือว่ามากแล้วจบ แต่ต้องติดตามเยียวยาความรู้สึก และจิตใจของคนในครอบ และญาติที่เกี่ยวข้อง รวมถึงความรู้สึกประชาชนในพื้นที่ด้วย และการจัดโครงการเด็กพร้าครั้งแรก นับว่า ศอ.บต. เข้าใจคนพื้นที่ และจะได้รับการยอมรับจากประชาชน ซึ่งถือว่ารัฐบาลคณะปัจจุบันมีความตั้งใจเพื่อแก้ปัญหา แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานความจริงใจ และทำอย่างต่อเนื่อง
ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. เปิดเผยว่า ศอ.บต.ทำทุกอย่างเพื่อคนในพื้นที่ และต้องการให้ประชาชนอยู่ร่วมกัน ทั้งชาวไทยพุทธและอิสลามบนความความแตกต่างที่อยู่ร่วมกันได้ ในส่วนจากเหตุความไม่สงบในห้วงที่ผ่านมา มีตัวเลขเด็กพร้าจากสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ 3 จชต.ไม่น้อยกว่า 5,000 คน จะเห็นว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความสูญเสีย และผลกระทบมากมาย เด็กพร้าถือเป็นเด็ก และเยาวชนต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า การดูแล และเยียวยา ส่งเสริมให้เด็กเป็นคนดี และได้รับการศึกษาจึงเป็นหน้าที่ของทุกส่วน และทาง ศอ.บต.เห็นความสำคัญ จึงจัดให้มีวันเด็กพร้าขึ้น ความจริงตรงกับวันที่ 25 ตุลาคม แต่เลื่อนเนื่องจากติดวันเกี่ยวข้องภารกิจศาสนาอิสลาม
ขณะที่ น.ส.รอซีดะ อาแว อายุ 16 ปี อยู่ ต.มะนังตายอ อ.เมือง จ.นราธิวาส ผู้สูญเสียบิดา ในการสลายม็อบตากใบ กล่าวว่า ตนมีพี่น้อง 4 คน และเป็นคนสุดท้อง เหตุการณ์ที่พ่อเสียชีวิต เนื่องจากความไม่รู้ของพ่อที่ไปร่วมกับเพื่อนที่หน้า สภ.ตากใบ ที่สุดพ่อก็เสียชีวิต สร้างความเสียใจ และทุกข์ทรมานแก่ครอบครัวทุกคน แต่อย่างไรก็ตาม คนเสียชีวิตก็ฟื้นไม่ได้ แต่โชคดีที่รัฐบาลชุดนี้เอาใจใส่และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุตากใบจนทุกคนพอใจ แต่ยังเสียใจ อยากให้รัฐทำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเหตุการณ์ความไม่สงบอยากให้จบลงเสียที “หนูไม่ยากเห็นความสูญเสีย บาดเจ็บล้มตายอีก”
