ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ชาวบ้านหมู่ 8 บ้างบางลา ต.ป่าคลอง จ.ภูเก็ต รวมตัวร้องผู้ว่าราชการจังหวัด ถูกนายทุนทำรั้วเหล็กเปิดทางขึ้นลงสะพานท่าเทียบเรือบ้านบางกา สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านกว่า 100 ครัวเรือน ที่ต้องใช้สะพานดังกล่าวในการออกทะเลไปทำการประมง ด้านผู้ว่าฯ รับปาก สั่งบูรณาการเจ้าหน้าที่นำกำลังตรวจลงตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้ความช่วยเหลือชาวบ้านแล้ว
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (22 ต.ค.) ที่บริเวณศาลากลาง จ.ภูเก็ต ชาวบ้านบ้านบางลา ประมาณ 50 คน นำโดยนายสมาน บำรุงนา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วย นายเฉด พันธ์ทิพย์ อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 นายสังข์ ปอดมี ชาวบ้านหมู่ที่ 8 เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน กรณีนายทุนนำรั้วเหล็กพร้อมขึ้นป้ายเป็นที่ส่วนบุคคลห้ามเข้ามาปิดทางขึ้นลงบริเวณท่าเทียบเรือบางกา บ้านบางลา หมู่ที่ 8 ทำให้ประชาชนที่ใช้ท่าเรือดังกล่าวในการออกไปประกอบอาชีพทำการประมงไม่สามารถที่จะขึ้นลงได้ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก นอกจากนั้น ยังเรียกร้องให้มีการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิของนายทุนรายดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังจากรับหนังสือร้องเรียนของชาวบ้าน นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้เชิญตัวแทนของชาวบ้าน พร้อมด้วยนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ และเจ้าหน้าที่ที่ดินอำเภอถลาง เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมเพื่อหามาตรการในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน โดย นายสมาน บำรุงนา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 บ้านบางลา ต.ป่าคลอก กล่าวถึงการเดินทางมายื่นหนังสือในครั้งนี้ว่า เนื่องจากชาวบ้านบ้านบางลาประมาณ 100 ครัวเรือน กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากได้มีนายทุนนำรั้วเหล็กมาปิดทางเข้า-ออกท่าเทียบเรือบางกา บ้านบางลา ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือที่ชาวบ้านใช้ประโยชน์กันมาเป็นเวลานาน และจากการตรวจสอบพบว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินสาธารณะ แต่นายทุนได้ขอออกเอกสารสิทธิทับที่ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายทุนเคยปิดทางเข้าออกท่าเทียบเรือดังกล่าวมาแล้วครั้งหนึ่ง รวมทั้งมีการแจ้งความดำเนินคดีต่อชาวบ้าน แต่หลังจากนั้นมีการต่อสู้กันในชั้นศาลซึ่งผลในชั้นต้นมีการยกฟ้อง และมีการเปิดทางเข้าออกบริเวณดังกล่าว แต่ล่าสุด ได้มีการปิดอีกแล้ว ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน จึงเดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ซึ่งนอกจากจะร้องเรียนให้มีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว ยังอยากเรียกร้องให้มีการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดินแปลงดังกล่าวด้วยว่ามีการออกเอกสารสิทธิถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
ขณะที่ นายไมตรี กล่าวว่า สำหรับเรื่องนี้ทางจังหวัดจะจัดเจ้าหน้าที่ลงไปดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งจะมีการบูรณาการการทำงานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่ดิน ป่าไม้ และหน่วยงานอื่นๆ ซึ่งจะลงไปตรวจสอบให้เร็วที่สุด ทั้งเรื่องของการการปิดทาง และเรื่องของการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดิน พร้อมแต่งตั้งตัวแทนชาวบ้านเข้าร่วมตรวจสอบด้วย ซึ่งหลังประชุมชาวบ้านพอใจ และแยกย้ายกันกลับ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (22 ต.ค.) ที่บริเวณศาลากลาง จ.ภูเก็ต ชาวบ้านบ้านบางลา ประมาณ 50 คน นำโดยนายสมาน บำรุงนา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วย นายเฉด พันธ์ทิพย์ อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 นายสังข์ ปอดมี ชาวบ้านหมู่ที่ 8 เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน กรณีนายทุนนำรั้วเหล็กพร้อมขึ้นป้ายเป็นที่ส่วนบุคคลห้ามเข้ามาปิดทางขึ้นลงบริเวณท่าเทียบเรือบางกา บ้านบางลา หมู่ที่ 8 ทำให้ประชาชนที่ใช้ท่าเรือดังกล่าวในการออกไปประกอบอาชีพทำการประมงไม่สามารถที่จะขึ้นลงได้ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก นอกจากนั้น ยังเรียกร้องให้มีการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิของนายทุนรายดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังจากรับหนังสือร้องเรียนของชาวบ้าน นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้เชิญตัวแทนของชาวบ้าน พร้อมด้วยนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ และเจ้าหน้าที่ที่ดินอำเภอถลาง เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมเพื่อหามาตรการในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน โดย นายสมาน บำรุงนา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 บ้านบางลา ต.ป่าคลอก กล่าวถึงการเดินทางมายื่นหนังสือในครั้งนี้ว่า เนื่องจากชาวบ้านบ้านบางลาประมาณ 100 ครัวเรือน กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากได้มีนายทุนนำรั้วเหล็กมาปิดทางเข้า-ออกท่าเทียบเรือบางกา บ้านบางลา ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือที่ชาวบ้านใช้ประโยชน์กันมาเป็นเวลานาน และจากการตรวจสอบพบว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินสาธารณะ แต่นายทุนได้ขอออกเอกสารสิทธิทับที่ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายทุนเคยปิดทางเข้าออกท่าเทียบเรือดังกล่าวมาแล้วครั้งหนึ่ง รวมทั้งมีการแจ้งความดำเนินคดีต่อชาวบ้าน แต่หลังจากนั้นมีการต่อสู้กันในชั้นศาลซึ่งผลในชั้นต้นมีการยกฟ้อง และมีการเปิดทางเข้าออกบริเวณดังกล่าว แต่ล่าสุด ได้มีการปิดอีกแล้ว ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน จึงเดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ซึ่งนอกจากจะร้องเรียนให้มีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว ยังอยากเรียกร้องให้มีการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดินแปลงดังกล่าวด้วยว่ามีการออกเอกสารสิทธิถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
ขณะที่ นายไมตรี กล่าวว่า สำหรับเรื่องนี้ทางจังหวัดจะจัดเจ้าหน้าที่ลงไปดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งจะมีการบูรณาการการทำงานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่ดิน ป่าไม้ และหน่วยงานอื่นๆ ซึ่งจะลงไปตรวจสอบให้เร็วที่สุด ทั้งเรื่องของการการปิดทาง และเรื่องของการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดิน พร้อมแต่งตั้งตัวแทนชาวบ้านเข้าร่วมตรวจสอบด้วย ซึ่งหลังประชุมชาวบ้านพอใจ และแยกย้ายกันกลับ
