เปิดเรือนจำนราธิวาสให้ผู้ต้องขังพบญาติแบบใกล้ชิด

นราธิวาส - เลขาฯ ศอ.บต. เปิดโครงการงาน “วันพบญาติใกล้ชิดผู้ต้องขังเรือนจำ จ.นราธิวาส” เพื่อให้ผู้ต้องขังมีโอกาสพบกับญาติๆ แบบใกล้ชิด พร้อมทานอาหารร่วมกัน โดยกำหนดจัดขึ้นในวันนี้ จนถึงวันที่ 25 ต.ค. นี้

วันนี้ (22 ต.ค.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประธานเปิดโครงการจัดงานวันพบญาติใกล้ชิดผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ซึ่ง พ.ต.รัฐกฤษณ์ ใจจริง ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ได้จัดขึ้นโดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก ศอ.บต. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ต้องขังได้มีโอกาสพบญาติแบบใกล้ชิด รวมถึงมีโอกาสรับประทานอาหารร่วมกัน เป็นการเสริมสร้างความรัก ความเข้าใจ และสร้างความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว

สำหรับงานวันพบญาติมีกำหนดจัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 25 ต.ค.นี้ โดยผู้ต้องขัง 1 คนญาติสามารถพบได้ 5 คน และครั้งนี้มีผู้ต้องขังแสดงความจำนงเข้าร่วมโครงการ 841 คน จากผู้ต้องขัง 1,240 คน รวมญาติมาเยี่ยม ทั้งหมด 3,445 คน

ในโอกาสนี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เข้าพูดคุยกับกลุ่มผู้ต้องขังในคดีความมั่นคง และผู้ต้องขังหญิงที่ส่วนใหญ่ถูกจับกุมในคดียาเสพติด โดยได้พูดให้กำลังใจ พร้อมสอบถามความเป็นอยู่และถามถึงครอบครัว ซึ่งได้เน้นย้ำถึงการดำเนินชีวิตภายในเรือนจำซึ่งถึงแม้จะเป็นพื้นที่ที่จำกัดสิทธิเสรีภาพ แต่ก็สามารถที่จะสร้างโอกาสให้กับผู้ต้อขังได้

นายกามารูน อาแว 1 ในผู้ต้องขังคดีความมั่นคง ได้กล่าวขอความช่วยเหลือต่อ ผอ.ศอ.บต. ในเรื่องของกระบวนการยุติธรรม เนื่องจากตนเองถูกพิพากษาจากศาลชั้นต้นให้ประหารชีวิต ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด โดยอยากให้มีการประสานระหว่างหน่วยงานภาครัฐในการหาหลักฐานมายืนยันเนื่องจากในวันเกิดเหตุตนเองอยู่บริเวณด่านชายแดนสุไหงโก-ลก อีกทั้งตลอดเส้นทางระหว่างขับรถยนต์จากสุไหงโก-ลก มายัง อ.เจาะไอร้อง น่าจะมีการบันทึกภาพตนเองได้ตามด่านตรวจต่างๆ

นายกามารูน อาแว กล่าวด้วยว่า เหตุที่ตนเองตัดสินใจเข้ามามอบตัวเพราะยังคงมั่นใจในกระบวนการยุติธรรม และมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตนเอง ซึ่งอยากให้กระบวนการยุติธรรมมีการพิจารณาแบบเป็นธรรมและรอบคอบแก่ผู้ต้องขังทุกคนด้วย