xs
xsm
sm
md
lg

3 ใน 5 เหยี่ยวข่าวนราฯ เผยนาที “เฉียดตาย” หลังตกเป็นเหยื่อบึ้มไฟใต้!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายรพี มามะ ผู้สื่อข่าว “ASTVผู้จัดการภาคใต้” ประจำ จ.นราธิวาส ได้เข้าเยี่ยมและให้กำลังใจเพื่อนสื่อมวลชนที่ประสบเหตุ
 
วันหยุดสุดสัปดาห์ หลายคนหาโอกาสพักผ่อนหลังกรำงานหนักมาตลอดอาทิตย์ หลายคนพาครอบครัว หรือคนรักไปตากแอร์ตามห้างสรรพสินค้า หรือไม่ก็ออกไปผ่อนพักตามชายทะเล หรือแหล่งธรรมชาติอันรื่นรมย์ มีเพียงคนไม่กี่หยิบมือเท่านั้นที่ยังต้องตรากตรำกับงานอย่างไม่เป็นเวล่ำเวลา ด้วยสำนึกในหน้าที่ และความรับผิดชอบ แม้พวกเขาสามารถกำหนดอาชีพของตนเองได้ แต่กลับไม่มีโอกาสกำหนดเวลาทำงาน เนื่องเพราะไม่เคยมีโอกาสรับรู้มาก่อนเลยว่า สถานการณ์ต่างๆ ที่กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งจงใจสร้างขึ้นนั้น จะเกิดที่ไหน เมื่อไหร่ และอย่างไร
 
เวลา 5 โมงเช้าเศษๆ ของวันเสาร์ที่ 19 ต.ด.ที่เพิ่งผ่านมา สื่อมวลชนที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ใน จ.นราธิวาส ต่างได้รับทราบมีกลุ่มคนร้ายใช้ระเบิดแสวงเครื่องบรรจุถังแก๊สปิคนิค หนักกว่า 20 กก. ดักสังหารทหารพรานชุดลาดตระเวนเส้นทาง กองร้อย ทพ.4505 กรมทหารพรานที่ 45 โดยมีทหารได้รับบาดเจ็บ 6 นาย เหตุเกิดริมถนนในหมู่บ้านฮูลูปาเระ ม.1 ต.ตันหยงมัส อ.เมืองนราธิวาส คนสื่อจำนวนมากจึงไปรวมตัวกันอยู่ที่นั่นเพื่อทำหน้าที่รายงานข่าว
 
เวลาเที่ยงวันเศษๆ ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานยังง่วนอยู่กับงานอย่างคร่ำเคร่ง ระเบิดแสวงเครื่องอีกลูกที่ซุกซ่อนอยู่บนต้นไม้ริมถนนห่างจากจุดเกิดเหตุแรกประมาณ 100 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่ใกล้กับเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และผู้สื่อข่าวแขนงต่างๆ ปฏิบัติงานอยู่ก็แผดเสียงก้องกัมปนาท เพียงม่านควันจางลงก็ทราบได้ว่า เหยื่อระเบิดลูกหลังนี้มีตำรวจ 2 นาย ร่วมกับผู้สื่อข่าวรวม 5 คน และทุกคนต่างล้มลงกองกับพื้นไปคนละทิศละทาง แต่ก็มีบางคนสื่อที่พอจะลุกไหวก็ไม่ลืมที่จะหยิบกล้องประจำกายขึ้นมาทำหน้าที่ต่อ
 
จากเหตุการณ์ครั้งมีเจ้าหน้าที่ทหารพรานบาดเจ็บ 6 นาย ตำรวจ 2 นาย แต่ในส่วนของคณะผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนราธิวาสที่ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดตามร่างกาย รวม 5 คน ขณะนี้ยังอยู่ในการดูแลของคณะแพทย์ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ประกอบด้วย
 
1.น.ส.มูรนี มามะ อายุ 26 ปี ผู้ช่วยผู้สื่อข่าว ASTVผู้จัดการ ถูกสะเก็ดระเบิด 3 จุด ที่บริเวณบั้นเอวมีเหล็กเส้นตัดฝังลึกยังไม่สามารถผ่าตัดออกได้
2.นายมะดารี โต๊ะลาลา อายุ 44 ปี ผู้สื่อข่าว AFP ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณแผ่นหลังด้านซ้าย
3.นายกรียา เต๊ะตานี อายุ 38 ปี ผู้สื่อข่าวช่อง 7
4.น.ส.สัญฐิติ ขอจิตต์เมตต์ อายุ 46 ปี ผู้สื่อข่าวช่อง 5 และ
5.น.ส ปทิตตา หนูสันทัด อายุ 32 ปี ผู้ช่วยผู้สื่อข่าวทีวีไทย
 
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าว “ASTVผู้จัดการภาคใต้” ประจำ จ.นราธิวาส ได้เข้าเยี่ยม และให้กำลังใจเพื่อนสื่อมวลชนที่ประสบเหตุดังกล่าว พร้อมได้รับการบอกเล่าเรื่องราวช่วงนาทีระทึกจากให้รับทราบอย่างน่าสนใจ จึงขอประมวลนำเสนอไว้ข้างล่างนี้
 
น.ส.มูรนี มามะ อายุ 26 ปี ผู้ช่วยผู้สื่อข่าว ASTVผู้จัดการ ถูกสะเก็ดระเบิด 3 จุด ที่บริเวณบั้นเอวมีเหล็กเส้นตัดฝังลึกยังไม่สามารถผ่าตัดออกได้
 
“พลันสิ้นเสียงระเบิดกับดักลูกที่ 2 เราได้ยินเสียงเพื่อนๆ นักข่าวด้วยกันต่างตะโกนว่า คนโน้นก็โดนระเบิด คนนี้ก็โดนระเบิด ระงมไปหมด” 
 
น.ส.มุรนี มามะ บอกเล่าขณะพ้นนาทีเฉียดตาย ก่อนเสริมว่า ตนมีหน้าที่บักทึกภาพนิ่ง และวิดีโอ ขณะเกิดระเบิดลูก 2 กำลังยืนคุยกับนายมะดารี และนายซาการียา อยู่ในจุด เพื่อรอเจ้าหน้าที่เปิดทางเข้าไปถ่ายภาพที่เกิดเหตุระเบิดลูกแรก
 
“ที่หนักสาหัสก็คือ ถูกสะเก็ดระเบิดที่เป็นเหล็กตัดเข้าที่บั้นเอวซ้าย แผลฉีกขาด เลือดพุ่ง แต่ได้คาดแผลจากการช่วยเหลือของเพื่อนนักข่าวด้วยกัน โดยใช้เสื้อที่มีอยู่ซับเลือดที่พุ่งไหล จากนั้นก็ยังต้องทำหน้าที่บันทึกภาพพลาง และซับเลือดที่ไหลไปพลาง เมื่อเสร็จภารกิจก็ถูกนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลระแงะ” 
 
ผู้ช่วยผู้สื่อข่าวประจำพื้นที่ของ “ASTVผู้จัดการ” กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ตอนนี้คงบอกได้แต่เพียงว่า เจ็บมาก และรู้ซึ้งถึงชะตากรรมของคนที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ดีแล้ว ใครก็ตามที่โดนกระทำจากกลุ่มที่ชอบก่อความรุนแรง และความไม่สงบ มันโหดร้ายต่อเขา และครอบครัวจริงๆ อยากให้ชายแดนใต้สงบสุข แต่ใครจะทำได้ในเวลานี้ นอกจากแก้ปัญหาด้วยการแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆ
 
นายมะดารี โต๊ะลาลา อายุ 44 ปี ผู้สื่อข่าว AFP ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณแผ่นหลังด้านซ้าย
 
ส่วนนายมะดารี โตะลาลา กล่าวถึงนาทีวิกฤตว่า ตนและเพื่อนนักข่าวได้รับแจ้งว่า มีเหตุระเบิดดังกล่าว จึงได้ขับรถยนต์กระบะไปกัน 3 คนกับ น.ส.มุรนี และนายกรียา ระหว่างทางบนถนน จะมีเจ้าหน้าที่วางกำลังเป็นระยะ เมื่อใกล้ถึงที่เกิดเหตุพบรถยนต์เจ้าหน้าที่หลายคันจอดอยู่ และห่างจากจุดเกิดเหตุระเบิดทหารพรานประมาณ 150 เมตร จึงจอดรถยนต์ริมถนนพร้อมกับเดินเท้าเข้าไป
 
“ที่จุดเกิดเหตุระเบิดลูกแรกมีกำลังเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มกัน EOD วางกำลังดูแลอยู่ และยังห้ามสื่อเข้าจุดเกิดเหตุ เพราะยังไม่ปลอดภัย ปล่อยให้ให้เจ้าหน้าที่ทำงานตรวจสอบไปก่อน ซึ่งก็มองเห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ในระยะราว 100 เมตร ตอนนั้นทราบเบื้องต้นแล้วว่ามีทหารพรานบาดเจ็บ 6 นาย ผมได้สอบถามชุดคุ้มกัน ว่าอีกกี่นาทีจะให้นักข่าวเข้าไป ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าเดียวปลอดภัยแล้วจะให้เข้าไป”
 

 
นายมะดารี บอกเล่าต่อไปว่า จากนั้นพวกเราที่มาด้วยกันก็จับกลุ่มคุยกันเอง โดยไม่ทันสังเกตว่าทางขวามือคนร้ายได้ฝังระเบิดผิวดินแบบจุดชนวนตั้งเวลา และขณะที่ได้พูดคุยอยู่นั้น นายซากีรียา ได้เดินออกจากลุ่มเพื่อจะไปถามเจ้าหน้าที่ ทันใดนั้นได้เกิดระเบิดขึ้นในเวลา 12.15 น. เสียงดังสนั่นหวั่นไหว
 
“ทุกคนล้มลงคลุกดิน กล้องตกคนละทิศทาง เราเห็นเจ้าหน้าที่บาดเจ็บอยู่ตรงหน้า ทุกคนจึงแข็งใจยกกล้องปัดฝุ่นที่ยังตลบออกให้ได้มากที่สุด เพื่อทำการบันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมเองรู้ตัวว่ามีเลือดไหลตลอดเวลา และเจ็บที่ไหล่ซ้ายอย่างมาก เจ็บชนิดที่ยกแขนแทบไม่ขึ้น แต่ยังแข็งใจทำหน้าที่ต่อ แล้วบอกให้เจ้าหน้าที่ที่มาช่วยเหลือนำตำรวจที่บาดเจ็บส่งไปโรงพยาบาลระแงะก่อน ผมขอทำหน้าที่เสร็จแล้วจะตามไป”  
 

 
ผู้สื่อข่าว AFP ประจำ จ.นราธิวาส ระบุว่า อยากบอกว่าระเบิดลูกที่ 2 ที่เกิดขึ้นเป็นระเบิดที่กลุ่มคนร้ายจงใจวางดักในบริเวณที่คาดว่าเจ้าหน้าที่จะใช้เป็นพื้นที่กันประชาชน และผู้ไม่เกี่ยวข้องไม่ให้เข้าไปในที่เกิดเหตุ นักข่าวเจ็บ 5 คน ในจำนวนนี้สาหัส 2 คน คือ ตน และ น.ส.มูรนี ซึ่งอยู่ใกล้กับรัศมีระเบิดมากที่สุด
 
“ในฐานะคนทำข่าวในพื้นที่ ผมเชื่อว่าฝ่ายคนร้ายมีการพัฒนาการศักยภาพก้าวหน้าตลอดเวลา และมั่นใจว่าสถานการณ์ในพื้นที่คงยากที่ใครจะแก้ไข ยังต้องใช้เวลาอีกนาน ผมมองว่ากลุ่มคนร้ายไม่สนใจอะไรเลย สนอย่างเดียวคือ ความรุนแรง ซึ่งจะมีคนเจ็บ และคนตายอีกจำนวนมากเท่าไรไม่สำคัญ ผมว่าสถานการณ์ไฟใต้มันฝังรากหยั่งลึกไปมากมายแล้ว”  
 
นายกรียา เต๊ะตานี อายุ 38 ปี ผู้สื่อข่าวช่อง 7
 
ด้านนายกรียา เต๊ะตานี เล่าว่า เราในฐานะสื่อมวลชนเมื่อมีข่าวสำคัญเราก็ต้องทำ แม้จะเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต ค่าข่าวไม่กี่ร้อยบาท หากจะถามว่าคุ้มหรือไม่ ผมขอตอบว่าไม่คุ้มอยู่แล้ว อีกทั้งถ้าเราตาย หรือพิการไป ใครจะดูแลครอบครัวเรา แต่เมื่อตัดสินใจยึดอาชีพเป็นผู้สื่อข่าว มันก็เป็นหน้าที่ที่เราต้องทำ ถ้าเราไม่ทำหน้าที่เพื่อสื่อเรื่องราวของแผนดินนี้ไปให้ประชาชนได้รับรู้ แล้วใครจะมาทำ
 
“อะไรเกิดขึ้นมันก็ต้องเกิด ส่วนสังคม หรือโลกจะรับรู้ไหม อันนั้นผมไม่รู้ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าน้อยใจเอามากๆ สมาคมสื่อมวลชนต่างๆ ที่อยู่ในประเทศไทยไม่เคยแสดงความจริงใจ และแถลงแสดงความเสียใจ หรือแถลงการณ์ใดๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนักข่าวในพื้นที่ชายแดนใต้ ต่างจากนักข่าวที่ทำข่าวในกรุงเทพฯ กระทบนักข่าวหน่อยก็แถลงเป็นเรื่องเป็นราว”
 
ผู้สื่อข่าวช่อง 7 กล่าวเสริมด้วยว่า สำหรับตนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณศีรษะ และกกหูซ้าย แต่ยังโชคดีกว่าคนอื่นๆ เพราะระหว่างเกิดระเบิดได้เดินห่างจากกลุ่มนักข่าวไป 15 เมตร พักฟื้นอีกสักระยะอาการคงดีขึ้น ในนาทีเกิดเหตุกล้องประจำกายผมเปื้อนเลือดนองเลย แต่ยังได้บักทึกภาพวิดีโอนาทีระทึกได้ ซึ่งหลายคนคงได้ชมแล้วทางสถานีโทรทัศน์ทั้งในระบบดาวเทียม และฟรีทีวีไปแล้ว
 
เจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บในคราวเดียวกัน
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น