ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คืบหน้าเผาวอด “ซุปเปอร์ชีป” จนท.ทุกหน่วยยังไม่สามารถลุยสอบที่เกิดเหตุได้ ด้านผู้การฯ ภูเก็ตยันระบุจุดที่เป็นต้นตอของการเกิดเพลิงไหม้ได้แล้ว
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (18 ต.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าเหตุการณ์เพลิงไหม้ห้างซุปเปอร์ชีปภูเก็ต ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ถ.เทพกระษัตรี ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต พล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ประชุมร่วม พ.ต.อ.พีระยุทธ การะเจดีย์ และ พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.วันชัย ปะลาวัน ผกก.กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.เศียร แก้วทอง พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้องเพื่อติดตามการทำงานด้านการรวบรวมพยานหลักฐานจากผู้เห็นเหตุการณ์ ปัญหาอุปสรรคในการเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ และรวมถึงการดำเนินการในส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
พล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า ตำรวจมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ทั้งหมด รักษาสภาพในพื้นที่เกิดเหตุให้คงเดิมที่สุด เพื่อมอบหมายให้กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้ามาเก็บหลักฐานพยานต่างๆ ขณะที่เรื่องของการสอบสวนเราได้มีการตั้งทีมพนักสอบสวน จำนวนกว่า 20 นาย โดยมี พ.ต.อ.เศียร แก้วทอง เป็นหัวหน้าชุด มีหน้าที่รับแจ้งความ สอบพยานเก็บหลักฐานไว้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เราสามารถระบุจุดที่เป็นต้นตอของการเกิดเพลิงไหม้ห้างซุปเปอร์ชีปได้แล้ว ซึ่งอยู่ห่างจากฝั่งทางเข้าด้านบริเวณฝั่งห้างทองภูเก็ต 2 ประมาณ 10 เมตร
ด้าน พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวด้วยว่า ในพื้นที่เกิดเหตุยังมีควันไฟ มีการระเบิดของวัตถุที่เป็นเชื้อเพลิงอยู่ ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อผู้ที่ไปตรวจสถานที่เกิดเหตุได้ เพราะฉะนั้น ขณะนี้ทั้งดับเพลิง บรรเทาสาธารณภัย รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการเฝ้าระวังไม่ให้เพลิงลุกลามออกนอกกรอบ
ส่วนการตรวจที่เกิดเหตุนั้น พื้นที่ตรงไหนที่ปลอดภัยเจ้าหน้าที่ก็จะเข้าไปดำเนินการตรวจสอบเพื่อเคลียร์พื้นที่เป็นจุดๆ ไป ซึ่งเมื่อวานนี้ (17 ต.ค.) เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ลงไปตรวจในพื้นที่บางส่วนแล้ว แต่เนื่องจากสถานที่เกิดเหตุยังมีการระเบิดของเชื้อเพลิง และมีควันไฟ มีการลุกไหม้ของเพลิง จึงยังไม่สามารถเข้าไปดับเพลิงได้ ถือเป็นอุปสรรคในการตรวจสถานที่เกิดเหตุ เพราะฉะนั้นการตรวจสถานที่ซึ่งจะแล้วเสร็จเมื่อไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับสภาพของที่เกิดเหตุว่าเราจะสามารถลงไปเคลียร์พื้นที่ได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งตำรวจ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเกี่ยวข้องก็พยายามสุดความสามารถ เพียงแต่ว่าขณะนี้เราพยายามสกัดให้เพลิงอยู่ในวงจำกัดเพื่อไม่ให้เกิดลุกไหม้ สร้างความเสียหายให้แก่พื้นที่อื่นต่อไป
ขณะที่การสอบพยานที่เห็นเหตุการณ์ มีการเรียกพยานบุคคลมาสอบที่เกี่ยวข้องที่มีการแจ้งเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็มีการบันทึกปากคำไว้แล้วในบางส่วน ทั้งนี้ ก็จะต้องมีการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุด้วยว่าสอดคล้องกันหรือไม่ ซึ่งทางสอบสวนก็จะต้องดำเนินการต่อไป