xs
xsm
sm
md
lg

ชาวมุสลิมยะลากว่า 3 พัน ร่วมละหมาดอีฎิ้ลอัฎฮาอย่างคึกคัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ยะลา - ชาวมุสลิมในจังหวัดยะลา กว่า 3,000 คน เดินทางมาร่วมพิธีละหมาดอีฎิ้ลอัฎฮา ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1434 กันอย่างคึกคัก ที่สนามศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา

วันนี้ (15 ต.ค.) เครือข่ายองค์กรมุสลิม มัสยิด และชุมชน จ.ยะลา ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมการละหมาดอีฎิ้ลอัฎฮา ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1434 ภายใต้หัวข้อ “เกียรติยศและศักดิ์ศรีมนุษยชน คือ ตัวตน คือคุณค่าประชาชาติ” ขึ้นที่สนามศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมความเป็นเอกภาพ และภราดรภาพในบรรดาผู้ศรัทธา เกิดการปฎิสัมพันธ์ระหว่างประชาชน และผู้นำ อันเนื่องในโอกาสวันอีฎิ้ลอัฎฮา อัลมูบาร็อก โดยมีผู้นำองค์กร ผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน สัปบุรุษมัสยิด เยาวชน นักเรียน นักศึกษา เข้าร่วมกว่า 3,000 คน

โดยพิธีทางศาสนา ประกอบด้วย การพบปะ ทักทาย สลาม อวยพรระหว่างกัน กล่าวตักบีร (สรรเสริญอัลลอฮ) เตรียมตัวละหมาด รำลึกอัลลอฮ ขอพร การละหมาดอีด (รายา) ร่วมกันรับฟังคุตบะห์ (ศาสโนวาท) อย่างสำรวม โดย อ.มัสลัน มาหะมะ จากมหาวิทยาลัยอิสลามยะลา เลี้ยงอาหารเครื่องดื่ม และแจกเงินเด็กๆ เพื่อให้เกิดความสุขสนุกสนาน

โอกาสนี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการ จ.ยะลา นายอุดร น้อยทับทิม รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายสถาพร กาญจนบุศย์ รองนายกเทศมนตรีนครยะลา ได้ร่วมแสดงความยินดีแก่ผู้เข้าร่วมพิธี พร้อมแจกเงินให้แก่เด็กๆ ที่มาร่วมการละหมาดในครั้งนี้ด้วย

นายแพทย์อนันตชัย ไทยประทาน ประธานเครือข่ายองค์กรมุสลิม มัสยิด และชุมชน จ.ยะลา กล่าวว่า การจัดพิธีละหมาดในวันอีฎิ้ลอัฎฮา จะเป็นการส่งเสริมให้ผู้ศรัทธาประกอบศาสนกิจตามแบบอย่างของท่านศาสนทูตมูฮัมมัด ส่งเสริมความเป็นเอกภาพ และภราดรภาพในบรรดาผู้ศรัทธา โดยยึดหลักบัญญัติศาสนาเป็นแกนกลาง เพื่อเข้าสู่กระบวนการกล่อมเกลาทางสังคมโดยการรับฟังศาสโนวาท (คุฎบะฮ) ที่ดี มีคุณภาพ รวมทั้งจะเป็นการเปิดพื้นที่ทางสังคม ให้เกิดการปฎิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล องค์กร มัสยิด และชุมชน และให้ประชาชนได้รับโอกาสพบปะ สลาม อวยพร ชื่นชมยินกัับผู้นำทุกระดับด้วยความปีติยินดี

ทั้งนี้ พิธีละหมาดวันตรุษอีฎิ้ลอัฎฮา ถือเป็นศาสนกิจที่สำคัญที่สุด ซึ่งมุสลิมทุกเพศทุกวัยจะต้องไปร่วมกันละหมาดที่มัสยิดใกล้บ้าน หรือในสถานที่ที่จัดไว้ เมื่อพิธีละหมาดเสร็จสิ้น โต๊ะอิหม่าม ก็จะบรรยายธรรม (คุตบะห์) จากนั้น จะมีการแสดงความยินดี และขออภัยต่อกันในสิ่งที่ได้ล่วงละเมิด ทั้งโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม และมีการบริจาคทานให้กับเด็ก คนชรา หรือผู้ยากไร้ พร้อมทั้งออกไปเยี่ยมเยียนซึ่งกันและกัน

นอกจากนั้น วันตรุษอีฎิ้ลอัฎฮา ยังมีพิธีกรรมที่สำคัญ คือ การเชือดสัตว์พลีทาน (กุรบ่าน) ซึ่งชาวไทยมุสลิมถือว่าจะได้เข้าใกล้ต่ออัลลอห์ด้วยการการเชือดสัตว์พลีต่อพระองค์ สำหรับสัตว์ที่นำมาใช้ฆ่าเพื่อทำทานในพิธี ก็จะมี วัว ควาย แพะ หรือแกะ โดยชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ จ.ยะลา ส่วนใหญ่จะนิยมเชือดวัว เพราะวัว 1 ตัว สามารถแบ่งได้หลายส่วน และสามารถทำทานได้ทั้งครอบครัว ซึ่งเนื้อสัตว์ที่ถูกฆ่าในพิธีกุรบ่านนี้ จะนำไปขายไม่ได้นอกจากทำอาหารเลี้ยง หรือแจกจ่ายให้แก่ผู้ยากไร้เท่านั้น

 
 




กำลังโหลดความคิดเห็น