ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สรุปยอดผู้ได้รับบาดเจ็บจากการเข้าร่วมงานประเพณีถือศีลกินผักที่จังหวัดภูเก็ต พบปีนี้มีจำนวน 65 ราย นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล จำนวน 7 ราย ส่วนใหญ่เกิดจากประทัดเข้าตา แขนขา ขณะที่ม้าทรงได้รับบาดเจ็บจากการแทงลิ้น แทงปาก จำนวน 12 ราย พบลดลงจากปีที่แล้วกว่าครึ่ง พบมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการลุยไฟสูงถึง 9 ราย
นายแพทย์ขจรศักดิ์ แก้วจรัส นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงกรณีมีนักท่องเที่ยว ประชาชน และม้าทรงที่ได้รับบาดเจ็บ ทั้งจากอาวุธที่ม้าทรงใช้ในการทิ่มแทงร่างกายเพื่อรับเคราะห์แทนประชาชนที่เข้าร่วมประเพณีถือศีลกินผัก และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเล่นประทัด และถูกประทัดกระเด็นใส่ ว่า ตามที่จังหวัดภูเก็ต กำหนดจัดงานงานประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2556 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-13 ต.ค.56 ซึ่งเป็นประจำทุกปีที่จะมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการเข้าร่วมประเพณีถือศีลกินผักดังกล่าว ซึ่งในปีนี้ก็เช่นกัน พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง 65 ราย ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาพบว่ามีจำนวนลดลง ซึ่งสาเหตุของการบาดเจ็บมากสุดเกิดจากประทัด
โดยขณะนี้ทางสำนักงานสาธารณสุขภูเก็ต ได้สรุปตัวเลขการบาดเจ็บของม้าทรง และประชาชนรวมทั้งนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมประเพณีถือศีลกินผักที่จังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วย ม้าทรง ได้รับบาดเจ็บจากการแทงแก้ม ลิ้น ปาก จำนวน 12 คน ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล จำนวน 2 คน โดยแยกเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต 8 ราย โรงพยาบาลถลาง 1 ราย โรงพยาบาลมิชชั่น 3 ราย
ได้รับบาดเจ็บจากประทัดเข้าตา จำนวน 14 คน ส่วนใหญ่เป็นประชาชน นักท่องเที่ยว และพี่เลี้ยงม้าทรง โดยต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล จำนวน 2 คน ประกอบด้วย เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลวชิระ จำนวน 7 คน โรงพยาบาลมิชชั่น 1 คน โรงพยาบาลสิริโรจน์ จำนวน 2 คน โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต จำนวน 2 คน นอกจากนั้น ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการโดนประทัดบริเวณแขน ขา จำนวน 13 คน ส่วนใหญ่เป็นประชาชน พี่เลี้ยง ผู้สัญจรไปมา และนักท่องเที่ยว ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล 2 คน แยกเป็นเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต จำนวน 4 ราย โรงพยาบาลถลาง จำนวน 2 ราย โรงพยาบาลสิริโรจน์ จำนวน 1 คน โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต จำนวน 5 คน และโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต 1 คน
โดนประทัดตามลำตัว จำนวน 12 คน ส่วนใหญ่เป็นม้าทรง และพี่เลี้ยง โดยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต จำนวน 4 คน โรงพยาบาลมิชชั่นภูเก็ต จำนวน 2 ราย โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต 5 คน โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต 1 คน แผลพุพองบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า แขนขา เนื่องจากการลุยไฟ จำนวน 9 คน ประกอบด้วย รักษาตัวที่โรงพยาบาลวชิระ จำนวน 4 ราย โรงพยาบาลถลาง จำนวน 1 ราย โรงพยาบาลป่าตอง 1 ราย โรงพยาบาลมิชชั่น จำนวน 1 ราย โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต จำนวน 2 ราย ในจำนวนดังกล่าวมีผู้ป่วยที่ส่งต่อจากโรงพยาบาลถลาง มารักษาต่อที่ที่โรงบาลวชิระภูเก็ต จำนวน 1 ราย เนื่องจากมีแผลไฟไหม้บริเวณแขน/ขาประมาณ 45% นอกจากนั้น ยังมีประชาชนที่เข้าร่วมประเพณีถือศีลกินผักหูอื้อจากประทัด จำนวน 1 ราย เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลถลาง และมีม้าทรงเป็นลมในขบวนแห่ จำนวน 2 ราย เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต
สรุปสถานการณ์การบาดเจ็บของผู้เข้าร่วมประเพณีถือศีลกินผักที่จังหวัดภูเก็ตมีทั้งสิ้น จำนวน 65 ราย ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาพบว่ามีจำนวนลดลง ซึ่งในปีที่ผ่านมา มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากถึง 81 ราย และจากการลงลึกในข้อมูลพบว่าปีนี้มีม้าทรงที่ได้รับบาดเจ็บจากการแทงปาก แทงแก้ม ลดลงจากปีที่ผ่านมากว่าครึ่ง เนื่องจากพบว่าปีนี้มีม้าทรงที่เข้ารับการรักษา จำนวน 12 คนเท่านั้น ขณะที่ปีที่แล้วมีมากถึง 27 คน ส่วนบาดเจ็บจากการลุยไฟ จำนวน 9 คน พบว่ามีจำนวนมากกว่าปีที่แล้ว ซึ่งปีที่ผ่านมา มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการลุยไฟจำนวน 5 คน
นายแพทย์ขจรศักดิ์ แก้วจรัส นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงกรณีมีนักท่องเที่ยว ประชาชน และม้าทรงที่ได้รับบาดเจ็บ ทั้งจากอาวุธที่ม้าทรงใช้ในการทิ่มแทงร่างกายเพื่อรับเคราะห์แทนประชาชนที่เข้าร่วมประเพณีถือศีลกินผัก และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเล่นประทัด และถูกประทัดกระเด็นใส่ ว่า ตามที่จังหวัดภูเก็ต กำหนดจัดงานงานประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2556 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-13 ต.ค.56 ซึ่งเป็นประจำทุกปีที่จะมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการเข้าร่วมประเพณีถือศีลกินผักดังกล่าว ซึ่งในปีนี้ก็เช่นกัน พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง 65 ราย ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาพบว่ามีจำนวนลดลง ซึ่งสาเหตุของการบาดเจ็บมากสุดเกิดจากประทัด
โดยขณะนี้ทางสำนักงานสาธารณสุขภูเก็ต ได้สรุปตัวเลขการบาดเจ็บของม้าทรง และประชาชนรวมทั้งนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมประเพณีถือศีลกินผักที่จังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วย ม้าทรง ได้รับบาดเจ็บจากการแทงแก้ม ลิ้น ปาก จำนวน 12 คน ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล จำนวน 2 คน โดยแยกเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต 8 ราย โรงพยาบาลถลาง 1 ราย โรงพยาบาลมิชชั่น 3 ราย
ได้รับบาดเจ็บจากประทัดเข้าตา จำนวน 14 คน ส่วนใหญ่เป็นประชาชน นักท่องเที่ยว และพี่เลี้ยงม้าทรง โดยต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล จำนวน 2 คน ประกอบด้วย เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลวชิระ จำนวน 7 คน โรงพยาบาลมิชชั่น 1 คน โรงพยาบาลสิริโรจน์ จำนวน 2 คน โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต จำนวน 2 คน นอกจากนั้น ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการโดนประทัดบริเวณแขน ขา จำนวน 13 คน ส่วนใหญ่เป็นประชาชน พี่เลี้ยง ผู้สัญจรไปมา และนักท่องเที่ยว ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล 2 คน แยกเป็นเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต จำนวน 4 ราย โรงพยาบาลถลาง จำนวน 2 ราย โรงพยาบาลสิริโรจน์ จำนวน 1 คน โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต จำนวน 5 คน และโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต 1 คน
โดนประทัดตามลำตัว จำนวน 12 คน ส่วนใหญ่เป็นม้าทรง และพี่เลี้ยง โดยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต จำนวน 4 คน โรงพยาบาลมิชชั่นภูเก็ต จำนวน 2 ราย โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต 5 คน โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต 1 คน แผลพุพองบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า แขนขา เนื่องจากการลุยไฟ จำนวน 9 คน ประกอบด้วย รักษาตัวที่โรงพยาบาลวชิระ จำนวน 4 ราย โรงพยาบาลถลาง จำนวน 1 ราย โรงพยาบาลป่าตอง 1 ราย โรงพยาบาลมิชชั่น จำนวน 1 ราย โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต จำนวน 2 ราย ในจำนวนดังกล่าวมีผู้ป่วยที่ส่งต่อจากโรงพยาบาลถลาง มารักษาต่อที่ที่โรงบาลวชิระภูเก็ต จำนวน 1 ราย เนื่องจากมีแผลไฟไหม้บริเวณแขน/ขาประมาณ 45% นอกจากนั้น ยังมีประชาชนที่เข้าร่วมประเพณีถือศีลกินผักหูอื้อจากประทัด จำนวน 1 ราย เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลถลาง และมีม้าทรงเป็นลมในขบวนแห่ จำนวน 2 ราย เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต
สรุปสถานการณ์การบาดเจ็บของผู้เข้าร่วมประเพณีถือศีลกินผักที่จังหวัดภูเก็ตมีทั้งสิ้น จำนวน 65 ราย ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาพบว่ามีจำนวนลดลง ซึ่งในปีที่ผ่านมา มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากถึง 81 ราย และจากการลงลึกในข้อมูลพบว่าปีนี้มีม้าทรงที่ได้รับบาดเจ็บจากการแทงปาก แทงแก้ม ลดลงจากปีที่ผ่านมากว่าครึ่ง เนื่องจากพบว่าปีนี้มีม้าทรงที่เข้ารับการรักษา จำนวน 12 คนเท่านั้น ขณะที่ปีที่แล้วมีมากถึง 27 คน ส่วนบาดเจ็บจากการลุยไฟ จำนวน 9 คน พบว่ามีจำนวนมากกว่าปีที่แล้ว ซึ่งปีที่ผ่านมา มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการลุยไฟจำนวน 5 คน
