ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สสจ.ภูเก็ต นำทีมลงตรวจอาหารศาลเจ้าท่าเรือ หลังมีกระแสข่าวว่าประชาชนที่เข้าร่วมประเพณีถือศีลกินผักถูกหามเข้าโรงพยาบาลเหตุอาหารเป็นพิษ เผยผลตรวจสอบพบแค่แพ้โชนที่นำมาใส่ในแกงกะทิเท่านั้น เบื้องต้นแพทย์ให้การรักษาปลอดภัยแล้วทุกคน ขณะที่ผลการตรวจสอบสถานที่ผลิตอาหารรวมทั้งพอครัวพบเป็นไปตามมาตรฐานการรักษาความสะอาด
นายแพทย์ขจรศักดิ์ แก้วจรัส นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เร็วลงตรวจสอบการประกอบอาหาร ที่ศาลเจ้าท่าเรือ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อแจกให้แก่ประชาชนที่เข้าร่วมประเพณีถือศีลกินผัก หลังได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลถลาง ว่า มีผู้ป่วยที่รับประทานอาหารเจที่พ่อครัวของศาลเจ้าปรุงแจกจ่ายแล้วมีอาการแสบร้อนในปาก
โดยเมื่อเวลาประมาณ 11.40 น. วันนี้ (13 ต.ค.) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาลถลางว่า มีผู้ป่วยจำนวน 7 ราย มีอายุระหว่าง 28-63 ปี เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล เนื่องจากการแพ้อาหารบางชนิด มีอาการปวดแสบปวดร้อนในปาก บางคนมีอาการคลื่นไส้ จึงรับตัวไว้รักษาพร้อมให้ยา และสอบถามประวัติ
ซึ่งจากการสอบถามพบว่า ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาทั้งหมดหมดรับประทานแกงกะทิโชน ซึ่งเป็นอาหารที่พ่อครัวในศาลเจ้าท่าเรือ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ปรุงแจกให้แก่ประชาชนที่เข้าร่วมประเพณีถือศีลกินผักในช่วงนี้นำไปรับประทาน และหลังรับประทานอาหารดังกล่าวเข้าไปพบว่าบางคนมีอาการคัน ปวดแสบปวดร้อน ซึ่งในเบื้องต้นทางโรงพยาบาลได้ให้ยาแก้แพ้รับประทานโดยทั้งหมดสามารถเดินทางกลับบ้านได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังรับแจ้งจึงได้ประสานหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เร็วลงตรวจสอบพื้นที่ทันที พบว่าวันนี้ (13 ต.ค.) พ่อครัวได้ปรุงอาหารหลายอย่าง รวมทั้งแกงกะทิโชน ซึ่งในส่วนของแกงกะทิโชนนั้นทำจำนวน 2 หม้อขนาดใหญ่ และได้มีการตักแจกให้แก่ประชาชนไปแล้วประมาณ 100 คน แต่เมื่อทางศาลเจ้าทราบว่ามีประชาชนบางส่วนมีอาการแพ้โชน ทางพ่อครัวจึงได้นำแกงดังกล่าวไปเททิ้งไม่นำมาตักแจกให้แก่ชาวบ้านอีก
นายแพทย์ขจรศักดิ์ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ในการแพ้อาหารบางชนิดของคนทั่วไปซึ่งจะมีอาการแพ้ที่ไม่เหมือนกัน บางคนแพ้กุ้ง แพ้ปู ซึ่งคนที่กินแกงโชนเข้าไปตอนแรกอาจจะยังไม่รู้ว่าตัวเองแพ้ผักชนิดนี้ เมื่อรับประทานเข้าไปจึงเกิดอาการแพ้ให้เห็น ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ สำหรับคนที่มีอาการแพ้ควรที่จะหลีกเลี่ยงอาหารชนิดที่ทำให้ตัวเองแพ้เพื่อความปลอดภัย ส่วนการปรุงอาหารเจของศาลเจ้าท่าเรือพบว่า เป็นไปตามมาตรฐานของการรักษาความสะอาดในการปรุงอาหารแจกจ่ายให้แก่ประชาชน รวมถึงการจัดเก็บภาชนะต่างๆ และในส่วนของแม่ครัวพ่อครัวที่มาช่วยปรุงอาหารก็มีการปฏิบัติตัวที่ถูกสุขลักษณะ มีการสวมผ้ากันเปื้อน มีการสวมหมวกเรียบร้อย
นายแพทย์ขจรศักดิ์ แก้วจรัส นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เร็วลงตรวจสอบการประกอบอาหาร ที่ศาลเจ้าท่าเรือ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อแจกให้แก่ประชาชนที่เข้าร่วมประเพณีถือศีลกินผัก หลังได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลถลาง ว่า มีผู้ป่วยที่รับประทานอาหารเจที่พ่อครัวของศาลเจ้าปรุงแจกจ่ายแล้วมีอาการแสบร้อนในปาก
โดยเมื่อเวลาประมาณ 11.40 น. วันนี้ (13 ต.ค.) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาลถลางว่า มีผู้ป่วยจำนวน 7 ราย มีอายุระหว่าง 28-63 ปี เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล เนื่องจากการแพ้อาหารบางชนิด มีอาการปวดแสบปวดร้อนในปาก บางคนมีอาการคลื่นไส้ จึงรับตัวไว้รักษาพร้อมให้ยา และสอบถามประวัติ
ซึ่งจากการสอบถามพบว่า ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาทั้งหมดหมดรับประทานแกงกะทิโชน ซึ่งเป็นอาหารที่พ่อครัวในศาลเจ้าท่าเรือ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ปรุงแจกให้แก่ประชาชนที่เข้าร่วมประเพณีถือศีลกินผักในช่วงนี้นำไปรับประทาน และหลังรับประทานอาหารดังกล่าวเข้าไปพบว่าบางคนมีอาการคัน ปวดแสบปวดร้อน ซึ่งในเบื้องต้นทางโรงพยาบาลได้ให้ยาแก้แพ้รับประทานโดยทั้งหมดสามารถเดินทางกลับบ้านได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังรับแจ้งจึงได้ประสานหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เร็วลงตรวจสอบพื้นที่ทันที พบว่าวันนี้ (13 ต.ค.) พ่อครัวได้ปรุงอาหารหลายอย่าง รวมทั้งแกงกะทิโชน ซึ่งในส่วนของแกงกะทิโชนนั้นทำจำนวน 2 หม้อขนาดใหญ่ และได้มีการตักแจกให้แก่ประชาชนไปแล้วประมาณ 100 คน แต่เมื่อทางศาลเจ้าทราบว่ามีประชาชนบางส่วนมีอาการแพ้โชน ทางพ่อครัวจึงได้นำแกงดังกล่าวไปเททิ้งไม่นำมาตักแจกให้แก่ชาวบ้านอีก
นายแพทย์ขจรศักดิ์ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ในการแพ้อาหารบางชนิดของคนทั่วไปซึ่งจะมีอาการแพ้ที่ไม่เหมือนกัน บางคนแพ้กุ้ง แพ้ปู ซึ่งคนที่กินแกงโชนเข้าไปตอนแรกอาจจะยังไม่รู้ว่าตัวเองแพ้ผักชนิดนี้ เมื่อรับประทานเข้าไปจึงเกิดอาการแพ้ให้เห็น ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ สำหรับคนที่มีอาการแพ้ควรที่จะหลีกเลี่ยงอาหารชนิดที่ทำให้ตัวเองแพ้เพื่อความปลอดภัย ส่วนการปรุงอาหารเจของศาลเจ้าท่าเรือพบว่า เป็นไปตามมาตรฐานของการรักษาความสะอาดในการปรุงอาหารแจกจ่ายให้แก่ประชาชน รวมถึงการจัดเก็บภาชนะต่างๆ และในส่วนของแม่ครัวพ่อครัวที่มาช่วยปรุงอาหารก็มีการปฏิบัติตัวที่ถูกสุขลักษณะ มีการสวมผ้ากันเปื้อน มีการสวมหมวกเรียบร้อย