สตูล - ตร.สตูล รวบมือมีดก่อเหตุสะเทือนขวัญฟันเฒ่าวัย 63 ปีดับคาบ้าน ก่อนฉกทรัพย์สินหลบหนี เบื้องต้นยังให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่ยันไม่จับผิดตัว เผยมีหลักฐานมัดตัวแน่น ระบุปมสังหารคาดมาจากความแค้นส่วนตัว
วันนี้ (11 ต.ค.) พล.ต.ต.ศักดิ์สมหมาย พุทธกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล เปิดเผยการจับกุมนายเจ๊ะหมาด ยีกาเตี๊ยะ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ที่ 4 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล หลังจาก พ.ต.ท.คมสัน แสงไกร รอง ผกก.(สส.) สภ.เมือง จ.สตูล พ.ต.ท.ภุชงค์ สงวนจิตร สว.กก.สส.ภ.จ.ว.สตูล ร.ต.อ. สัญญา จันทร์ดำ รอง สว.สส.สภ. เมือง จ.สตูล พ.ต.ต.ธีระชาติ รักษสกูล สว.อก.ปรท.สว.สส.สภ.ท่าแพ จ.สตูล ร.ต.ต.เกียรติศักดิ์ เผือกผ่อง รอง สว.สส.สภ.ท่าแพ จ.สตูล พร้อมกำลังชุดสืบสวน บุกเข้าจับกุมตัวนายเจ๊ะหมาด ยีกาเตี๊ยะ ตามหมายศาลจังหวัดสตูล ในคดีข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อความสะดวกในการที่จะเอากระทำความผิดอย่างอื่น” ข้อหา “ร่วมกันเอาเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่น” และข้อหา “ร่วมกันอาอาวุธในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่เหตุอันควรอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188, 289 (4)(6) และมาตรา 188,371” โดยจับกุมได้ที่ปากทางเข้าสามแยกบ้านทุ่งริ้น ท้องที่หมู่ 2 ต.ท่าแพ อ.ท่าแพ จ.สตูล
สำหรับ นายเจ๊ะหมาด ยีกาเตี๊ยะ เป็นผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่านายเจริญ ทวนทอง อายุ 63 ปี ถึงแก่ความตายอย่างโหดเหี้ยม ดดยใช้มีดสปาต้าฟันไม่ยั้งเข้าที่ร่างผู้ของตาย จนเสียชีวิตภายในบ้านตัวเอง เลขที่ 45 หมู่ 2 ต.คลองขุด อ.เมืองสตูล พร้อมปล้นเงินสดจำนวน 15,000 บาท แหวนทองคำวงละ 2 สลึง 2 วง เหตุเกิดเวลา 22.00 น. วันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา
โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองสตูล ได้จับกุมนายอนุชิต ลั่นสิ่น หรือ บี อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 174 หมู่ 5 ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล ในคดียาเสพติด ก่อนจะสืบพบว่า ก่อนจับกุมได้ร่วมกับนายเจ๊ะหมาดก่อเหตุสะเทือนขวัญดังกล่าว โดยศาลจังหวัดสตูลได้อนุมัติหมายจับหลังพบคราบเลือดบนมีดสปาต้าที่นายอนุชิตซุกไว้ในรถยนต์ พร้อมมีดพกสั้นซุกซ่อนไว้ใต้ผ้ายางวางเท้าในรถ จึงยึดส่งชุดวิทยาการพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสตูลตรวจสอบอีกครั้ง และยังพบความเชื่อมโยงในการก่อเหตุสะเทือนขวัญดังกล่าว ซึ่งบาดแผลที่อยู่บนแขนของผู้ต้องหาที่เชื่อว่าเป็นบาดแผลในที่เกิดเหตุ แม้เบื้องต้นผู้ต้องทั้งสองยังให้การปฏิเสธ แต่ทางตำรวจมีพยานปากสำคัญที่จะบ่งชี้ได้ว่าทั้งคู่เป็นคนก่อเหตุดังกล่าว
ส่วนปมสังหารในครั้งนี้ พบว่ามีความแค้นเป็นการส่วนตัวก่อนลงมือฆ่า ซึ่งทางตำรวจจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานมามัดตัวผู้ต้องอีกครั้ง และเชื่อว่าไม่ได้เป็นการจับแพะอย่างแน่นอน
