ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - พ่อเด็กฝาแฝดนำหลักฐานมอบให้พนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีต่อร่างทรง ขณะที่ลุงซึ่งอยู่ร่วมพิธียืนยันไม่ได้บังคับให้เด็กกินน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ และเตรียมเข้าขอขมาศพ ด้านคดีพนักงานสอบสวนยังไม่ได้แจ้งข้อหารอผลผ่าพิสูจน์ศพจากแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลสงขลานครินทร์
ความคืบหน้าเหตุเด็กชาย 2 พี่น้องฝาแฝดอายุ 16 ปี ซึ่งร่างทรงให้ดื่มน้ำมนต์ศักดิ์ 18 ลิตรเพื่อขับไล่ภูตผีปีศาจ ระหว่างเข้าร่วมพิธีถือศีลกินเจกับญาติในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา เป็นเหตุให้ นายปฐมรัตน์ บุญนคร หรือบูม แฝดน้องเสียชีวิต ส่วนนายปฏิพัทธ์ บุญนคร หรือบอม แฝดพี่บาดเจ็บ
ล่าสุด ในวันนี้ (9 ต.ค.) นายณรงค์ บุญนคร อายุ 51 ปี พ่อของพี่น้องฝาแผดได้นำหลักฐานซึ่งเป็นผลการพิสูจน์ศพของทางโรงพยาบาลสะเดา ก่อนที่แฝดน้องจะเสียชีวิตไปมอบให้แก่พนักงานสอบสวน สภ.สะเดา เจ้าของคดีหลังจากที่ได้เข้าแจ้งความไว้แล้วเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อใช้เป็นหลักฐานเอาผิดต่อ นางกาญจนา ทรรมวงศ์ศา อายุ 36 ปี ร่างทรงประกอบพิธีฐานฆ่าคนตาย แต่ทางพนักงานสอบสวนยังไม่ได้แจ้งข้อหาต่อ นางกาญจนา เนื่องจากต้องรอหลักฐานผลการผ่าพิสูจน์ศพของแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ถึงจะแจ้งข้อกล่าวหาและออกหมายจับ นางกาญจนา ได้
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านที่ใช้ประกอบพิธีซึ่งพบว่าเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ตั้งอยู่เลขที่ 37 ซอย 2 ถนนสะเดา-ปาดังเบซาร์ เขตเทศบาลเมืองสะเดา โดยมี นายสันทิฎ ลิ่มพนาพิทักษ์ ซึ่งเป็นลุงของฝาแฝดเป็นเจ้าของบ้าน และเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง โดยยืนยันว่า ในวันเกิดเหตุไม่ได้มีใครบังคับให้ฝาแฝดทั้ง 2 ดื่มน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ โดยสมัครใจดื่มเองเพราะอยากลอง และเกิดความศรัทธาตามความเชื่อ และระหว่างฝาแฝดทั้ง 2 เกิดอาการช็อกก็เป็นคนช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งตนเตรียมเดินทางไปขอขมาหลานที่เสียชีวิตจากเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้น
ขณะที่ นายชยกร เจนกำจรชัย ซึ่งเป็นญาติๆ กัน บอกว่า นางกาญจนา ร่างทรงบอกว่า แฝดน้องที่เสียชีวิตมีเสือสมิงสิงอยู่ในร่าง เพราะเห็นแขวนเขี้ยวเสือติดตัวจึงให้กินน้ำเพื่อขับไล่ปีศาจและยังอ้างว่าสามารถติดต่อกับเทพได้ และมีประสาทสัมผัสที่ 5 และมีตาทิพย์มองเห็นในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น ซึ่งทุกคนที่เข้าร่วมพิธีต่างเชื่อถือ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบจากภาพถ่ายระหว่างการประกอบพิธีที่ได้มีการถ่ายภาพนิ่งเอาไว้พบว่า พี่น้องฝาแฝดได้เข้าร่วมพิธีกับญาติๆ ซึ่งมีทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ราว 10 คน ซึ่งพิธีมีทั้งการนั่งสมาธิ สวดมนต์ เดินจงกลม ร่างทรงประกอบพิธีทำน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์สำหรับให้ทุกคนดื่ม การอาบน้ำมนต์ และร่วมรับประทานอาหารเจ ส่วน นางกาญจนา ซึ่งเป็นร่างทรงนั้นทราบว่า อยู่ในเครือญาติเดียวกันกับผู้ร่วมพิธี และไม่ได้หลบหนีไปไหน และกำลังอยู่ระหว่างเตรียมหลักทรัพย์ประกันตัว หากทางพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาดำเนินคดี
ล่าสุด นายปฏิพัทธ์ บุญนคร หรือบอม แฝดพี่ แพทย์โรงพยาบาลหาดใหญ่ได้อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว และได้เดินทางไปเคารพศพน้องชาย ซึ่งตั้งศพบำเพ็ญกุศลอยู่ที่มูลนิธิสงเคราะห์คนชราอนาถา ถนนนิพัทธ์อุทิศ 3 เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ และเมื่อมาถึงได้ร้องไห้และทำใจอยู่พักใหญ่กว่าจะเข้าไปเคารพศพน้องชายได้ โดยมีญาติ และครูช่วยปลอมใจ จากนั้นญาติได้นำขึ้นรถกลับไปพักฟื้นที่บ้านพักเลขที่ 8 ถนนนิพัทธิ์ภักดี เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ เนื่องจากยังมีสภาพร่างกายที่อิดโรย และสภาพจิตใจย่ำแย่จากการสูญเสียน้องชายฝาแฝด ซึ่งทั้งคู่สนิทสนม และรักกันมาก ไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ หรือเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่บรรยากาศในงานศพเป็นไปด้วยความเศร้า มีญาติ คณะครู และเพื่อนทยอยเดินทางมาร่วมเคารพศพอย่างต่อเนื่อง
