นราธิวาส - เจ้าหน้าที่แกะรอย “เปเล่ดำ” ยึดอาวุธปืนสงครามอุปกรณ์หลายรายการ ฝังอยู่ในสวนหลังบ้านพ่อตาแม่ยาย “มะซูเพียน” อ.รือเสาะ หวั่นสมุนที่เหลือนำไปใช้ก่อเหตุตอบโต้ทางการ
วันนี้ (8 ต.ค.) พ.อ.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.กรมทหารพรานที่ 41 พ.ต.อ.ชูเกียรติ ภูกาบพลอย ผกก.ชุดสืบสวนคดีสำคัญ ศชต. พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.รือเสาะ ได้ร่วมสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย ร.15132 ฉก.นราธิวาส 30 และชุดสุนัขสงครามดมกลิ่น ฉก.อโณทัย จำนวน 70 นาย เดินทางไปพิสูจน์ทราบในสวนยางพารา บ้านสะแนะ ม.1 ต.เรียง อ.รือเสาะ ซึ่งอยู่ด้านหลังบ้านพักของพ่อตาแม่ยายของ นายมะซูเพียน สาแล 1 ใน 4 กองกำลังติดอาวุธ RKK ที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิต พร้อมนายอับดุลรอฮิง ดาอีซอ หรือเปเล่ดำ เมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนบุคคลทั้ง 7 คน ที่ยอมมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่แต่โดยดี หลังจากวิสามัญ นายอับดุลรอฮิง หรือเปเล่ดำ เสียชีวิตพร้อมพวก
โดยทั้ง 7 คน ได้ให้การเป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ และยอมเปิดเผยแหล่งซุกซ่อนอาวุธปืนของนายอับดุลรอฮิง หรือเปเล่ดำ ที่ใช้ก่อเหตุคดีความมั่นคงต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ได้แอบนำไปซุกซ่อนไว้ใต้โคนต้นไม้ใหญ่ในป่าสวนยางพารา ที่นายอับดุลรอฮิง หรือเปเล่ดำ มักใช้สถานที่ดังกล่าวในการประชุมวางแผนเพื่อก่อเหตุร้ายในพื้นที่ต่างๆ เสมอมา
เมื่อถึงเป้าหมายเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันเดินหน้ากระดาน และใช้สุนัขสงครามในการดมกลิ่น เพื่อแกะรอยหาแหล่งที่ซุกซ่อนอาวุธ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จนสามารถพบจุดต่างๆ ที่ซุกซ่อนอาวุธ และอุปกรณ์ในการประกอบระเบิดแสวงเครื่อง ที่แต่ละจุดห่างกันประมาณ 10 เมตร
โดยจุดแรกเจ้าหน้าที่ตรวจพบที่ซุกซ่อนวิทยุสื่อสารยี่ห้อ ICOM ที่ใช้เป็นตัวจุดชนวนระเบิดที่ใส่ถุงฝังไว้ และจุดที่ 2 พบปุ๋ยยูเรียที่ใส่ไว้ในขวดพลาสติกน้ำอัดลมขนาด 1 ลิตร จุดที่ 3 เป็นอาวุธปืนอาก้า และอาวุธปืนลูกซองยาว รวมถึงกระสุนปืนลูกซอง และกระสุนปืน เอ็ม 60จำนวนกว่า 70 นัด ที่คนร้ายเก็บไว้ในกระสอบปุ๋ย แล้วนำไปซุกไว้ในท่อพีวีซีสีฟ้าขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 นิ้ว ที่ฝังลึกลงไปในดิน และมีฝาปิดที่หล่อด้วยปูนซีเมนต์ ส่วนจุดที่ 4 พบเหล็กเส้นตัดสั้นที่ใส่ไว้ในขวดเครื่องดื่มน้ำอัดลมยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งมีขนาดยาวประมาณ 2-3 ซม.เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้ โดยเฉพาะอาวุธปืนอาก้า และลูกซองยาว เจ้าหน้าที่เตรียมส่งให้ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 จ.ยะลา นำไปตรวจสอบวิถีกระสุนว่า นายอับดุลรอฮิง หรือ เปเล่ดำ เคยใช้ และให้ลูกสมุนนำไปก่อเหตุที่ใดบ้าง
ซึ่งการเข้าพิสูจน์ทราบในครั้งนี้ พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.รือเสาะ เปิดเผยว่า เป็นการขยายผลการสอบสวนปากคำของนายมะรอกิ๊ มะนุ อายุ 30 ปี ซึ่งมีหมายจับ ป.วิ อาญา จำนวน 3 หมาย และ พ.ร.ก. 1 หมาย ซึ่งเป็น 1 ใน 7 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวได้ในวันเกิดเหตุ หลังเจ้าหน้าที่ได้เกิดปะทะกับนายอับดุลรอฮิง หรือเปเล่ดำ ที่ให้การซัดทอดถึงที่ซุกซ่อนอาวุธ และเจ้าหน้าที่รีบเข้าพิสูจน์ทราบเพื่อตรวจยึดอาวุธปืนดังกล่าว เกรงสมุนที่เหลือของ นายอับดุลรอฮิง จะแฝงตัวมาขุดเอาอาวุธปืนดังกล่าวไปใช้ก่อเหตุเพื่อตอบโต้เจ้าหน้าที่ทางการ
นอกจากนี้แล้ว การพิสูจน์ทราบของเจ้าหน้าที่ยังคงไม่จบภารกิจซึ่งที่สำคัญที่สุดคือ ต้องตรวจหาที่ซุกซ่อนอาวุธปืนเอ็ม 60 อีกจำนวน 2 กระบอก ที่นายอับดุลรอฮิง หรือเปเล่ดำ ใช้ยิงถล่มชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส บนถนนในหุบเขายือราแป บ้านบลูกาสนอ ม.4 ต.ตะปอเยาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งนายอับดุลรอฮิง หรือเปเล่ดำ ได้ถ่ายภาพบันทึกไว้ด้วยโทรศัพท์มือถือแล้วนำไปแพร่ภาพลงในยูทิวบ์ เพราะเชื่อว่าอาวุธปืนเอ็ม60 ทั้ง 2 กระบอก ยังซุกซ่อนอยู่ในป่าสวนยางพาราบริเวณดังกล่าว
a