พังงา - หน่วยกู้ภัยปากวีป จ.พังงา รับหญิงสาวชาวพม่านำส่งโรงพยาบาลตะกั่วป่า มีอาการปวดท้องไม่ทราบสาเหตุ แต่ต้องตะลึง! ก่อนถึงโรงพยาบาลเพียงแค่ 4 กม. พบหัวเด็กทารกโผล่ออกมาต้องทำคลอดกันจ้าละหวั่นจนปลอดภัยทั้งแม่และลูก ขณะที่สาวชาวพม่าไม่ทราบมาก่อนว่าตั้งครรภ์ เนื่องจากร่างกายไม่ผิดปกติ
เมื่อเวลา 00.15 น. วันนี้ (3 ต.ค.) เจ้าหน้าที่มูลนิธิภูเก็ตร่วมใจ จุดกู้ภัยปากวีป อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ได้รับแจ้งจากศูนย์นเรนทรจังหวัดพังงา 1669 ว่า ให้รับผู้ป่วยเป็นแรงงานต่างด้าวชาวพม่า คนงานกรีดยางพาราในพื้นที่ บ้านปากวีป ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา นำส่งโรงพยาบาลตะกั่วป่า เนื่องจากมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงไม่ทราบสาเหตุ
หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปรับผู้ป่วยทราบชื่อ คือ นางโซ่ อายุ 35 ปี สัญชาติพม่า กำลังปวดท้องอย่างรุนแรง จึงได้นำตัวขึ้นรถกู้ภัยปากวีป หมายเลขทะเบียน นข 455 พังงา เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลตะกั่วป่า แต่ระหว่างทางบริเวณตลาดบางม่วงตะกั่วป่า ก่อนถึงโรงพยาบาล ประมาณ 4 กิโลเมตร หญิงชาวพม่าคนดังกล่าวได้ร้องว่าไม่ไหวแล้ว ปวดท้องมาก และเพียงอึดใจเดียวเจ้าหน้าที่กู้ภัยเห็นมีเลือดออกมาทางขาของผู้ป่วย
ทางเจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบเพื่อให้การช่วยเหลือ พบว่าที่บริเวณช่องคลอดมีหัวเด็กทารกโผล่อออกมา หน่วยกู้ภัยจึงต้องจอดรถ และช่วยทำคลอดในรถอย่างทุลักทุเล และสามารถในทีทำคลอดจนสำเร็จ ปลอดภัยทั้งแม่และลูก ท่ามกลางชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างมุงดูกันและคอยลุ้นให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ให้การช่วยเหลือ พร้อมขอความช่วยเหลือจากโรงพยาบาลตะกั่วป่า ให้ส่งรถกู้ชีพมารับ สำหรับทารกดังกล่าวเป็นเพศชาย น้ำหนัก 2,800 กรัม ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์
นายปรีชา ฟุ้งเฟื่อง เจ้าหน้ามูลนิธิภูเก็ตร่วมใจ จุดกู้ภัยปากวีป กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากทางศูนย์นเรนทรจังหวัดพังงา ว่า ได้รับแจ้งทาง 1669 มีหญิงชาวพม่า ขอความช่วยเหลือมีอาการปวดท้องไม่ทราบสาเหตุให้ช่วยนำส่งโรงพยาบาลตะกั่วป่า ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิภูเก็ตร่วมใจ จุดกู้ภัยปากวีป ได้เดินทางไปรับที่สวนยางพารา พร้อมนำส่งโรงพยาบาลตะกั่วป่า แต่ระหว่างทางหญิงสาวพม่าได้มีอากาศปวดท้องอย่างรุนแรง และคลอดเด็กออกมาโดยเจ้าหน้าที่ช่วยเหลืออย่างเต็มที่จนได้รับความปลอดภัยทั้งแม่และลูก
อย่างไรก็ตาม สำหรับหญิงสาวชาวพม่าดังกล่าวไม่ทราบมาก่อนว่าตัวเองท้อง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยเองก็ไม่ทราบว่าหญิงสาวชาวพม่ามีอาการปวดท้องจะคลอดลูกเนื่องจากสภาพร่างกายไม่เหมือนกับท้อง และท้องไม้ได้โตผิดปกติแต่อย่างใด ในเบื้องต้นคิดว่าน่าจะปวดท้องเนื่องจากไส้ติ่งอักเสบ เนื่องจากมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง แต่พอขับรถมาระยะหนึ่งก็พบว่าคนป่วยมีอาการปวดท้องมาก และคลอดลูกในรถดังกล่าว
เมื่อเวลา 00.15 น. วันนี้ (3 ต.ค.) เจ้าหน้าที่มูลนิธิภูเก็ตร่วมใจ จุดกู้ภัยปากวีป อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ได้รับแจ้งจากศูนย์นเรนทรจังหวัดพังงา 1669 ว่า ให้รับผู้ป่วยเป็นแรงงานต่างด้าวชาวพม่า คนงานกรีดยางพาราในพื้นที่ บ้านปากวีป ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา นำส่งโรงพยาบาลตะกั่วป่า เนื่องจากมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงไม่ทราบสาเหตุ
หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปรับผู้ป่วยทราบชื่อ คือ นางโซ่ อายุ 35 ปี สัญชาติพม่า กำลังปวดท้องอย่างรุนแรง จึงได้นำตัวขึ้นรถกู้ภัยปากวีป หมายเลขทะเบียน นข 455 พังงา เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลตะกั่วป่า แต่ระหว่างทางบริเวณตลาดบางม่วงตะกั่วป่า ก่อนถึงโรงพยาบาล ประมาณ 4 กิโลเมตร หญิงชาวพม่าคนดังกล่าวได้ร้องว่าไม่ไหวแล้ว ปวดท้องมาก และเพียงอึดใจเดียวเจ้าหน้าที่กู้ภัยเห็นมีเลือดออกมาทางขาของผู้ป่วย
ทางเจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบเพื่อให้การช่วยเหลือ พบว่าที่บริเวณช่องคลอดมีหัวเด็กทารกโผล่อออกมา หน่วยกู้ภัยจึงต้องจอดรถ และช่วยทำคลอดในรถอย่างทุลักทุเล และสามารถในทีทำคลอดจนสำเร็จ ปลอดภัยทั้งแม่และลูก ท่ามกลางชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างมุงดูกันและคอยลุ้นให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ให้การช่วยเหลือ พร้อมขอความช่วยเหลือจากโรงพยาบาลตะกั่วป่า ให้ส่งรถกู้ชีพมารับ สำหรับทารกดังกล่าวเป็นเพศชาย น้ำหนัก 2,800 กรัม ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์
นายปรีชา ฟุ้งเฟื่อง เจ้าหน้ามูลนิธิภูเก็ตร่วมใจ จุดกู้ภัยปากวีป กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากทางศูนย์นเรนทรจังหวัดพังงา ว่า ได้รับแจ้งทาง 1669 มีหญิงชาวพม่า ขอความช่วยเหลือมีอาการปวดท้องไม่ทราบสาเหตุให้ช่วยนำส่งโรงพยาบาลตะกั่วป่า ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิภูเก็ตร่วมใจ จุดกู้ภัยปากวีป ได้เดินทางไปรับที่สวนยางพารา พร้อมนำส่งโรงพยาบาลตะกั่วป่า แต่ระหว่างทางหญิงสาวพม่าได้มีอากาศปวดท้องอย่างรุนแรง และคลอดเด็กออกมาโดยเจ้าหน้าที่ช่วยเหลืออย่างเต็มที่จนได้รับความปลอดภัยทั้งแม่และลูก
อย่างไรก็ตาม สำหรับหญิงสาวชาวพม่าดังกล่าวไม่ทราบมาก่อนว่าตัวเองท้อง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยเองก็ไม่ทราบว่าหญิงสาวชาวพม่ามีอาการปวดท้องจะคลอดลูกเนื่องจากสภาพร่างกายไม่เหมือนกับท้อง และท้องไม้ได้โตผิดปกติแต่อย่างใด ในเบื้องต้นคิดว่าน่าจะปวดท้องเนื่องจากไส้ติ่งอักเสบ เนื่องจากมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง แต่พอขับรถมาระยะหนึ่งก็พบว่าคนป่วยมีอาการปวดท้องมาก และคลอดลูกในรถดังกล่าว
