ศูนย์ข่าวภูเก็ต - พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ปธ.กมธ.ยุติธรรมและการตำรวจ ร่วมติดตามปัญหาการปฏิบัติงานด้านอาชญากรรมข้ามชาติจังหวัดภูเก็ต พร้อมสั่งเจ้าหน้าที่เร่งศึกษา พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ใช้ตรวจสอบผู้กระทำผิดโดยไม่ต้องรอหมายศาล
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (27 ก.ย.) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.พีระยุทธ์ การะเจดีย์ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย ผกก.ในสังกัด ภ.จว.ภูเก็ต รอง ผกก.กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต และ พงส.ผทค.กลุ่มงานสอบสวนฯ ผู้แทนหน่วยงาน ตม.ภูเก็ต ด่าน ตม.ทอ.ภูเก็ต กก.8 บก.รน. กก.5 บก.ทท. ส.ทล. 1 กก.7 บก.ทล. และ นปส.ภูเก็ต ร่วมต้อนรับ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองประธานคณะกรรมาธิการการยุติธรรมและการตำรวจ วุฒิสภา และคณะ ในโอกาสเดินทางมาศึกษาดูงาน และฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับสภาพปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ของภูธรจังหวัดภูเก็ต และเพื่อแนะนำเกี่ยวกับความพร้อมในการดำเนินการ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.2556
พ.ต.อ.พีระยุทธ์ รอง ผบก.ภ.จว..ภูเก็ต กล่าวถึงปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ว่า สำหรับปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานด้านป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ หลักๆ คือ ด้านระบบฐานข้อมูลซึ่งมีไม่เพียงพอ คลุมเครือไม่ชัดเจน การบันทึกข้อมูลไม่เป็นปัจจุบัน การเข้าถึงข้อมูลเป็นข้อจำกัดในการตรวจสอบ เจ้าพนักงานไม่มีความรู้ความชำนาญในเรื่องอาชญากรรมข้ามชาติ ประกอบกับ ตำรวจภูธรมีภาระงานค่อนข้างมาก ทำให้ขาดการต่อเนื่องในการแก้ปัญหาเฉพาะทาง และนอกจากนี้ ยังมีในเรื่องของการร้องเรียนร้องทุกข์ของผู้ได้รับความเสียหาย หรือผู้ได้รับผลกระทบที่เป็นปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานในเรื่องดังกล่าว เพราะบางครั้งแทนที่ผู้เสียหายจะเดินทางมาแจ้งความต่อเจ้าพนักงานโดยตรง ก็จะมาเป็นบัตรสนเท่ห์แทน ซึ่งบางทีผู้เสียหายเดินทางกลับประเทศไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถนำตัวมาสอบสวนขยายผลเพื่อติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้
ส่วนมาตรการการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวนั้น พ.ต.อ.พีระยุทธ์ กล่าวว่า ทางตำรวจภูธรได้ให้ความสำคัญด้านการข่าว โดยมีการประสานงานกับตำรวจสันติบาล ฝ่ายปกครอง มีการจัดเซฟตี้โซนดูแลความปลอดภัย โดยอาศัยความร่วมมือภาคประชาชน ปรับปรุงประสิทธิภาพของด่านตรวจภูเก็ต มีการสำรวจการติดตั้งกล้องวงจรปิดในทุกพื้นที่ โดยประสานความร่วมมือกับทางภาคเอกชน และหน่วยงานภาครัฐ เพื่อความรวดเร็วในการตรวจพิสูจน์ คัดกรอง มีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดตามเวลาอาชญากรรมที่จะเกิดขึ้น มีการจัดทำแผ่นพับภาษาจีน อังกฤษ รัสเซีย เพื่อแนะนำนักท่องเทียวที่เดินทางเข้ามา มีการจัดทำเวทีประชาคม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เซฟตี้โซนประสบความสำเร็จ โดยความมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นสำคัญ และมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยออกกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่
ด้าน พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองประธานคณะกรรมาธิการการยุติธรรมฯ กล่าวว่า สำหรับคณะกรรมาธิการการยุติธรรมและการตำรวจ วุฒิสภา มีหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือ และตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล โดยเฉพาะการทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงการร้องเรียนต่างๆ ในกระบวนการยุติธรรม และสำหรับการเดินทางมาในวันนี้ เพื่อรับทราบสภาพปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานด้านการป้องกัน และปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ของตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และแนะนำเกี่ยวกับความพร้อมในการดำเนินการ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.2556 ซึ่งเพิ่งบังคับใช้ไปเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2556 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติมีเกิดขึ้นในทุกประเทศ แต่ต่างประเทศสถานการณ์ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติจะรุนแรงกว่าประเทศไทย ซึ่งสถานการณ์โดยทั่วไปยังปกติอยู่ ปัญหาที่สร้างความเดือนร้อนให้แก่ประชาชน เรื่องรถแท็กซี่ การขายสินค้าราคาแพง จะมีมากกว่าปัญหาอาชญากรรมที่เกิดขึ้น
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ในการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาตินั้น ปัจจุบันเรามีกฎหมายเกี่ยวกับอาชญากรรมข้ามชาติมาใช้บังคับ ก็ถือว่าเป็นเครื่องมือของตำรวจ ปัจจุบันการจับกุมชาวต่างชาติที่กระทำผิดฐานองค์กรอาชญากรรมข้ามชาตินั้นจับได้ยาก เนื่องจากขาดหลักฐาน แต่ตอนนี้มีอำนาจดำเนินการตามกฎหมายใหม่ โดยขออนุมัติจากอัยการสูงสุด ก็สามารถที่จะเป็นเครื่องมือในการที่จะทำให้ตำรวจไปตรวจค้นโดยไม่ต้องขอหมายศาล เข้าไปดำเนินการตามอำนาจที่กฎหมายให้ไว้ เพื่อดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติให้ได้ผลยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิผล ทางตำรวจจะต้องมีการไปศึกษาหาความรู้ในกฎหมายดังกล่าวนำมาปรับใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการต่อไป ซึ่งในวันนี้ ทางคณะกรรมาธิการฯ ก็ได้แนะนำไปในเรื่องของการจัดชุดพนักงานสอบสวนขึ้นมารองรับกฎหมายฉบับนี้โดยเฉพาะ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการปฏิบัติหน้าที่
“มีชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวเยอะ ก็อาจจะมีชาวต่างชาติบางคน ซึ่งเป็นส่วนน้อย ที่ดูตามสถิติยังมีน้อยมาก คนไหนที่คิดจะมาตั้งแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ หรือมีการโยงไปยังประเทศอื่นด้วย ก็จะถูกดำเนินการตามกฎหมายใหม่นี้ ซึ่งแต่เดิมทำไม่ได้ แต่ตอนนี้ทำได้แล้ว ซึ่งความผิดอะไรก็ตามที่มีโทษตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไป ก็อยู่ในเครือข่ายของกฎหมายนี้หมด สามารถดำเนินการได้” พล.ต.อ.จงรัก กล่าวในที่สุด
