ระนอง - ทัพเรือภาค 3 สั่งศูนย์ประสานงานประมงชายแดนทางทะเลไทย-พม่า (ศปชล.ทพ) ส่งหนังสือประท้วงทางการพม่าที่รุกล้ำเข้ามายิงเรือประมงไทยในน่านน้ำไทย พร้อมส่งเรือหลวงศรีราชา และเรือ ต.221 นำภรรยา และญาติของไต้ก๋งเรือ แต่ยังไร้วี่แวว ด้านผู้บังคับการเรือรบของทางพม่าโต้ผ่านสื่อว่า เรือประมงไทยยิงต่อสู้ก่อน และยังมีเรือประมงไทยลักลอบเข้ามาทำประมงในน่านน้ำพม่าอีกหลายลำ
จากกรณีที่เรือรบพม่า PGM หมายเลข 426 จากฐานทัพเรือเกาะย่านเชือก รุกล้ำน่านน้ำประเทศไทยเข้ามาในจังหวัดระนอง ที่บริเวณเกาะโคม และเกาะช้าง ม.2 ต.เกาะพยาม อ.เมือง จ.ระนอง และได้ทำการยิงเรือประมงไทย ชื่อ มนตรีทวีศิลป์ 3 โดยลูกเรือทั้ง 14 คน สามารถกระโดดน้ำหนี และมีเรือประมงมารับเข้าฝั่งจนปลอดภัย ส่วนไต้ก๋งเรือที่สั่งให้ลูกน้องกระโดดน้ำ ขณะนี้ยังไม่รู้ชะตากรรม ต่อมา ทัพเรือภาคที่ 3 ได้สั่งการให้ทางศูนย์ประสานงานประมงชายแดนทางทะเลไทย-พม่า (ศปชล.ทพ) ทำหนังสือประท้วงไปยังทางการพม่า โดยเนื้อหาการประท้วงระบุ 3 ข้อสำคัญ คือ 1.เรือรบพม่าลำดังกล่าวรุกล้ำน่านไทยเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทย 2 ไมล์ทะเลอย่างชัดเจน จากการตรวจจับของเรดาร์ 2.เรือรบพม่าใช้อาวุธยิงเข้าใส่เรือประมงไทยในเขตน่านไทยโดยไม่มีสาเหตุ และ 3.เรือรบพม่าทำเกินกว่าเหตุ โดยหนังสือดังกล่าวจะส่งให้ทางการพม่าในวันนี้ 23 ก.ย.56 ซึ่งเป็นวันทำการการของทางราชการ เพื่อให้ทางการพม่าได้ทราบถึงการกระทำดังกล่าว
ส่วนความคืบหน้าในการค้นหาไต้ก๋งเรือประมงลำดังกล่าว ล่าสุด วันนี้ทางทัพเรือภาค 3 ได้ส่งเรือหลวงศรีราชา และเรือ ต.221 พร้อมนางปิยนันทร์ จันทร์อ่อน ภรรยาไต้ก๋งเรือ และญาติร่วมค้นหา ในรัศมี 18-20 ไมล์ทะเล โดยมี น.ต.ศักดิ์สิทธิ์ เตชะพงศ์ประเสริฐ ผู้บังคับการเรือหลวงศรีราชา เป็นผู้รับผิดชอบ
น.ต.ศักดิ์สิทธิ์ เปิดเผยว่า ได้รับคำสั่งจากทัพเรือภาคที่ 3 ให้นำเรือมารับญาติของไต้ก๋งเรือเพื่อออกตามหา และตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพื่อหาพิกัด ส่วนการค้นหาตัวไต้ก๋งเรือที่ยังไม่ทราบชะตากรรมว่า โดยวันนี้ได้ทำการวิ่งลาดตระเวนตรวจสอบเป็นระยะทางประมาณ 18-20 ไมล์ทะเล และให้เรือ ต.221 ออกตรวจสอบบริเวณใกล้กับเกาะต่างๆ ที่อยู่ในอาณาเขตของประเทศไทย อย่างเช่น เกาะพยาม เกาะเหลา เกาะสินไห เกาะตาครุฑ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 4-6 ชั่วโมง เนื่องจากสภาพอากาศในทะเลยังคงมีคลื่นลมแรง
นางปิยนันทร์ ภรรยาไต้ก๋งเรือ เปิดเผยว่า ถึงอย่างไรตน และครอบครัวรวมไปถึงญาติๆ ของสามีก็ยังมีความหวังที่จะเจอไต้ก๋งเรือ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาลูกชายคือ นายอำนวย จันทร์อ่อน ซึ่งเป็นทหารเรืออยู่ที่ค่ายจุฬาภรณ์ จังหวัดปัตตานี ได้ขอลางานจากผู้บังคับบัญชา เพื่อมาตามหาพ่อ โดยเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาได้ชักชวนเพื่อนๆ และลูกน้องที่เคยออกทำการประมงด้วยกันประมาณ 8-9 คน นำเรือหางยาววิ่งออกตามหาตามเกาะต่างๆ เท่าที่จะทำได้ ลูกชายบอกแม่ไม่ต้องเป็นห่วงถ้าพ่อยังอยู่ในฝั่งไทยเราต้องหาตัวพ่อเจอแน่
ด้านแหล่งข่าวความมั่นคงชายแดนในจังหวัดระนอง ให้ข้อมูลว่า หลังเกิดเหตุการณ์เรือรบพม่ายิงเรือประมงไทย และมีการเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ ปรากฏว่า ทางการพม่าได้มีการตอบโต้ไทย โดยทาง พ.ต.ซ่อซ่อจ่อ ผบ.เรือพม่า หมายเลข 426 สน.ทร.ที่ 57 เกาะซาแด็กจี สังกัดฐานทัพเรือภาคตะนาวศรี ได้แถลงข่าวต่อสื่อพม่าโดยอ้างว่า การจับเรือประมงอวนลากของไทยที่ลักลอบเข้ามาทำการจับปลาในน่านน้ำพม่า ซึ่งเรือลำดังกล่าวมีอาวุธปืน (US Rifle, Cal.30 m1 หรือปืนไรเฟิล) ขนาด 0.30 มีกระสุนในรังเพลิง 8 นัด ซองกระสุน 28 อัน รวมกระสุนทั้งหมด 220 นัด พร้อมทั้งยังมีเรือพายขนาดเล็กติดที่ด้านซ้ายไว้หลบหนี และยังมีเครื่องมือที่ทันสมัยสำหรับคอยเตือนเรื่องสภาพดินฟ้าอากาศรุ่นล่าสุด ใช้ตรวจลมมรสุมแบบจีนตอนใต้ เรียกว่า USAGI และPABUK 2-3 แม็ก ระหว่างเข้าจับกุมมีการยิงต่อสู้มาจากเรืออวนลากของไทย ทำให้ทหารเรือพม่าต้องตอบโต้ด้วยการยิงกลับ ตอนนี้เรือประมงไทยถูกลากไปไว้ที่เกาะซาแด็กจี
นอกจากนี้ พ.ต.ซ่อซ่อจ่อ ยังอ้างต่อว่า ยังมีเรือไทยอีกกลุ่มหนึ่งในเมืองระนอง ที่ลักลอบเข้าไปจับปลาในน่านน้ำพม่าโดยผิดกฎหมาย บริเวณตั้งแต่ด้านหลังเกาะสะโล้งจุน อ.เมืองเกาะสอง จนถึงเกาะซาแด็กจีด้านตะวันออก และเคยมีเรือประมงไทย 1 ลำ ไปวนเวียนบริเวณเกาะรังนก และเกาะแจ็ดมอจุน แต่ละครั้งที่เรือไทยลักลอบเข้ามาจะมีเรือพายขนาดเล็กติดมาด้วย เรือประมงไทยยิงปืนข่มขู่ชาวบ้านชาวพม่าที่ทำประมงขนาดเล็กอยู่ในพื้นที่ ซึ่งทหารเรือพม่าได้รับการร้องเรียนจากชาวพม่า
