นครศรีธรรมราช - ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เรียกประชุมศูนย์ปฏิบัติการร่วมแก้ไขปัญหาผู้ชุมนุม ย้ำไม่แทรกแซงราคายาง สั่งตรวจสอบสต๊อกร้านยางอัดคอยส่งเสบียงให้ผู้ชุมนุม ขณะที่ ตร.เผยข้อมูล เจ้าหน้าที่บาดเจ็บสูงถึง 119 นาย สาหัส 4 นาย
วันนี้ (17 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ผู้ชุมนุมกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราที่แยกหนองหงษ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมเหลืออยู่บางตาเช่นทุกวัน หลังจากที่ช่วงดึกได้ทยอยกลับไปพักผ่อน ขณะที่พื้นที่นั้นเต็มไปด้วยซากรถยนต์ที่ถูกเผาทำลาย มีการตั้งเวทีที่เกาะกลางถนน และติดตั้งเต็นท์เข้ามาในพื้นที่เพิ่มเติม ขณะเดียวกัน ได้มีการตัดโค่นไม้ใหญ่ริมถนนลงมาพาดขวางถนนเป็นสิ่งกีดขวางการเข้ามาสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่
ขณะเดียวกัน ในช่วงเช้าวันนี้ที่ศูนย์ปฏิบัติการร่วมจังหวัดนครศรีธรรมราช นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่เป็นคณะกรรมการประจำศูนย์ปฏิบัติการร่วมเพื่อแก้ไขปัญหาการชุมนุม พร้อมทั้งสรุปสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (16 ก.ย.)
โดย พ.ต.อ.สุทัศน์ ชาญสวัสดิ์ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ได้รายงานในภาพรวม ว่า ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บมีสูงถึง 119 นาย โดยในจำนวนนี้ 4 นาย อยู่ในอาการสาหัส ต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช และยืนยันว่า อาวุธปืนที่สูญหายไปเมื่อวานนี้ ประกอบด้วย อาวุธปืนยาวเอชเค และเอ็ม 16 อย่างละ 1 กระบอก ลูกซองยาว 1 กระบอก อาวุธปืนสั้นอีกจำนวนหนึ่ง ได้รับคืนมาแล้ว โดยการประสานพูดคุยกับกลุ่มผู้ชุมนุม ส่วนรถยนต์ของทางราชการที่เสียหายไปนั้นมีทั้งหมด 9 คัน ที่เหลือเป็นรถยนต์ส่วนตัว
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมได้พิจารณาข้อเสนอของ นายภาณุ อุทัยรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่เสนอให้มีการออกใบปลิวทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ชุมนุม ด้วยการนำไปโปรยในพื้นที่ชุมนุมทางอากาศ แต่ในที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่าอาจจะเป็นการขยายวงความขัดแย้งได้ จึงขอให้ออกใบปลิวแจกจ่ายในช่องทางปกติแทน และในส่วนของคณะทำงานด้านกฎหมาย ได้เร่งในข้อพิจารณาเพื่อชี้แจงต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในประเด็นการใช้แก๊สน้ำตา เพื่อเป็นการป้องกันเจ้าหน้าที่ในขณะที่ต้องถอยร่นออกจากที่ชุมนุม
ด้านนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งการในที่ประชุม โดยเฉพาะสำนักงานเกษตรกรจังหวัด ให้เข้าทำการตรวจสอบสต๊อกยางพาราในทุกจุดของจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่ใกล้เคียงกับจุดชุมนุม เนื่องจากพบข้อมูลว่า ร้านรับซื้อยางพาราได้กักตุนยางพาราไว้เป็นจำนวนมาก และเป็นผู้สนับสนุนเสบียงในการชุมนุม
“ผมเคยพูดคุยกับญาติของผู้ชุมนุม เขาบอกว่ามีคนจ้างให้อยู่ต่อ ดังนั้น จึงชัดเจนว่าเป็นเหตุผลที่ไม่ได้เดือดร้อนอย่างแท้จริง ส่วนข้อเรียกร้องเรื่องการแทรกแซงราคายางพารานั้น ยืนยันว่าทำไม่ได้แน่ เพราะจะไปสร้างประโยชน์ให้แก่นายทุนไม่ใช่เกษตรกร และยังกระทบต่อกลไกตลาดโลก” นายวิโรจน์กล่าว
ขณะที่ พ.อ.ชาญวิทย์ ปิ่นมณี รอง ผอ.รมน.นครศรีธรรมราช (รอง ผวจ.ฝ่ายทหาร) เปิดเผยในที่ประชุมว่า ขณะนี้ พล.ต.ชาญประดิษฐ์ แสงนิล รองแม่ทัพภาคที่ 4 ได้มีคำสั่งตั้งวอร์รูม พร้อมสนับสนุนการปฏิบัติทันที
“ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้เร่งถอดโครงสร้างของกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อหาช่องทางในการพูดคุย และขณะนี้พบว่า มีผู้ใหญ่บางคนสามารถพูดคุยกับกลุ่มผู้ชุมนุมได้ ซึ่งอยู่ในระหว่างการประสานงาน”
วันนี้ (17 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ผู้ชุมนุมกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราที่แยกหนองหงษ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมเหลืออยู่บางตาเช่นทุกวัน หลังจากที่ช่วงดึกได้ทยอยกลับไปพักผ่อน ขณะที่พื้นที่นั้นเต็มไปด้วยซากรถยนต์ที่ถูกเผาทำลาย มีการตั้งเวทีที่เกาะกลางถนน และติดตั้งเต็นท์เข้ามาในพื้นที่เพิ่มเติม ขณะเดียวกัน ได้มีการตัดโค่นไม้ใหญ่ริมถนนลงมาพาดขวางถนนเป็นสิ่งกีดขวางการเข้ามาสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่
ขณะเดียวกัน ในช่วงเช้าวันนี้ที่ศูนย์ปฏิบัติการร่วมจังหวัดนครศรีธรรมราช นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่เป็นคณะกรรมการประจำศูนย์ปฏิบัติการร่วมเพื่อแก้ไขปัญหาการชุมนุม พร้อมทั้งสรุปสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (16 ก.ย.)
โดย พ.ต.อ.สุทัศน์ ชาญสวัสดิ์ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ได้รายงานในภาพรวม ว่า ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บมีสูงถึง 119 นาย โดยในจำนวนนี้ 4 นาย อยู่ในอาการสาหัส ต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช และยืนยันว่า อาวุธปืนที่สูญหายไปเมื่อวานนี้ ประกอบด้วย อาวุธปืนยาวเอชเค และเอ็ม 16 อย่างละ 1 กระบอก ลูกซองยาว 1 กระบอก อาวุธปืนสั้นอีกจำนวนหนึ่ง ได้รับคืนมาแล้ว โดยการประสานพูดคุยกับกลุ่มผู้ชุมนุม ส่วนรถยนต์ของทางราชการที่เสียหายไปนั้นมีทั้งหมด 9 คัน ที่เหลือเป็นรถยนต์ส่วนตัว
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมได้พิจารณาข้อเสนอของ นายภาณุ อุทัยรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่เสนอให้มีการออกใบปลิวทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ชุมนุม ด้วยการนำไปโปรยในพื้นที่ชุมนุมทางอากาศ แต่ในที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่าอาจจะเป็นการขยายวงความขัดแย้งได้ จึงขอให้ออกใบปลิวแจกจ่ายในช่องทางปกติแทน และในส่วนของคณะทำงานด้านกฎหมาย ได้เร่งในข้อพิจารณาเพื่อชี้แจงต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในประเด็นการใช้แก๊สน้ำตา เพื่อเป็นการป้องกันเจ้าหน้าที่ในขณะที่ต้องถอยร่นออกจากที่ชุมนุม
ด้านนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งการในที่ประชุม โดยเฉพาะสำนักงานเกษตรกรจังหวัด ให้เข้าทำการตรวจสอบสต๊อกยางพาราในทุกจุดของจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่ใกล้เคียงกับจุดชุมนุม เนื่องจากพบข้อมูลว่า ร้านรับซื้อยางพาราได้กักตุนยางพาราไว้เป็นจำนวนมาก และเป็นผู้สนับสนุนเสบียงในการชุมนุม
“ผมเคยพูดคุยกับญาติของผู้ชุมนุม เขาบอกว่ามีคนจ้างให้อยู่ต่อ ดังนั้น จึงชัดเจนว่าเป็นเหตุผลที่ไม่ได้เดือดร้อนอย่างแท้จริง ส่วนข้อเรียกร้องเรื่องการแทรกแซงราคายางพารานั้น ยืนยันว่าทำไม่ได้แน่ เพราะจะไปสร้างประโยชน์ให้แก่นายทุนไม่ใช่เกษตรกร และยังกระทบต่อกลไกตลาดโลก” นายวิโรจน์กล่าว
ขณะที่ พ.อ.ชาญวิทย์ ปิ่นมณี รอง ผอ.รมน.นครศรีธรรมราช (รอง ผวจ.ฝ่ายทหาร) เปิดเผยในที่ประชุมว่า ขณะนี้ พล.ต.ชาญประดิษฐ์ แสงนิล รองแม่ทัพภาคที่ 4 ได้มีคำสั่งตั้งวอร์รูม พร้อมสนับสนุนการปฏิบัติทันที
“ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้เร่งถอดโครงสร้างของกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อหาช่องทางในการพูดคุย และขณะนี้พบว่า มีผู้ใหญ่บางคนสามารถพูดคุยกับกลุ่มผู้ชุมนุมได้ ซึ่งอยู่ในระหว่างการประสานงาน”