กรงนกหัวจุกในภาคใต้ขายดีแทบผลิตไม่ทัน

ตรัง - ผลจากความนิยมในการเลี้ยงนกกรงหัวจุกของชาวใต้ ทำให้ธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตกรงนกพลอยได้รับผลดีตามไปด้วย เนื่องจากมียอดการสั่งซื้อเข้ามามากจนแทบผลิตไม่ทัน

นายแสวง ชูบัว ประธานกลุ่ม OTOP กรงนกนาหมื่นศรี ตำบลนาหมื่นศรี อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง กล่าวว่า ในช่วงระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา ทั้งชาวภาคใต้ และชาวตรัง ต่างได้ให้ความสนใจเลี้ยงนกกรงหัวจุก หรือมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า นกปรอดหัวโขนเคราแดง กันอย่างทั่วไป จนมองเห็นกรงนกที่ถูกนำมาแขวนโชว์เอาไว้แทบทุกหลังบ้าน ซึ่งก็ได้ทำให้อาชีพที่เกี่ยวข้องกับนกชนิดนี้เติบโตสูงขึ้นหลายเท่าตัว

ทั้งนี้ ถึงแม้ว่านกกรงหัวจุกจะมีกฎหมายคุ้มครองเอาไว้ ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 17 แต่เนื่องจากเป็นสัตว์ป่าชนิดที่สามารถเพาะพันธุ์ได้ จึงทำให้เกิดการขยายพันธุ์ และถูกนำไปเลี้ยงกันอย่างแพร่หลาย อันเนื่องมาจากเสียงร้องอันไพเราะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดังนั้น ผู้คนจึงนิยมนำมาเลี้ยงไว้ฟังเสียงร้อง และนำมาแข่งขันประชันลีลาสำนวนเสียงของแต่ละตัวว่าใครจะเหนือกว่ากัน

สำหรับหนึ่งในสินค้าที่อยู่คู่กับนกกรงหัวจุกมาอย่างยาวนาน ก็คือ กรงนก แต่ไม่ใช่ว่าผู้ผลิตทุกแห่งจะประสบความสำเร็จ เพราะเกิดการล้มหายตายจากไปไม่น้อย และยังเหลือที่เป็นมืออาชีพในจังหวัดตรังจริงๆ เพียงไม่กี่แห่ง ซึ่ง 1 ในนั้นก็คือ กลุ่ม OTOP กรงนกนาหมื่นศรี ซึ่งได้ริเริ่มผลิตสินค้าขึ้นมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2548 หรือเมื่อเกือบ 8 ปีที่แล้ว ทั้งๆ ที่ไม่มีเงินทุน ไม่มีสมาชิก และทำกันภายในครัวเรือน

ต่อมา เมื่อสินค้าเริ่มเป็นที่รู้จักจึงมีการสั่งซื้อกรงนกหัวจุกไปจำหน่ายในต่างอำเภอและจังหวัดใกล้เคียง เมื่อปี 2550 ทางกลุ่มจึงได้จดทะเบียนเป็นสินค้า OTOP ทำให้มียอดการสั่งซื้อกรงนกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนทางกลุ่มไม่สามารถผลิตได้ทันต่อตามต้องการ จึงต้องขอความร่วมมือจากสมาชิกที่มีอยู่ประมาณ 10 คน ให้เร่งผลิตสินค้าเพื่อส่งให้แก่ร้านค้าในตัวเมืองตรังที่มีอยู่ทั้งหมด 9 แห่ง ประมาณเดือนละ 200 ชิ้น

โดยกรงนกกรงหัวจุกที่ผลิตขึ้นมานี้ จะมีอยู่ 3 ขนาด ได้แก่ ขนาดยอดนิยม 15 ซี่ มีราคาขายส่ง กรงละ 150 บาท ขนาด 17 ซี่ มีราคาขายส่ง กรงละ 300 บาท และขนาด 19 ซี่ มีราคาขายส่ง กรงละ 350 บาท อย่างไรก็ตาม ส่วนที่แพงที่สุดของกรงนกก็คือ ส่วนหัว ซึ่งใช้ถือ หรือแขวนนั้น หากเป็นไม้ขาวดำ จะมีราคาหัวละ 350 บาท ไม้นาคบุตร มีราคาหัวละ 300 บาท และไม้พูเล มีราคาหัวละ 30 บาท