ศูนย์ข่าวภูเก็ต - โลมาลายแถบเกยตื้นบริเวณชายหาดเกาะคอเขา จ.พังงา ตายแล้ว คาดป่วยเรื้อรัง เตรียมผ่าซากพิสูจน์วันนี้นี้ ขณะที่ก่อนหน้านี้ พบโลมาปากขวดเกยตื้นที่ จ.สตูล 1 ตัว แต่ปล่อยกลับทะเลแล้ว
เมื่อวานนี้ (8 ก.ย.) น.ส.พัชราภรณ์ แก้วโม่ง สัตวแพทย์ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีชาวบ้านเกาะคอเขา จงพังงา พบโลมาขนาดใหญ่ถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นบริเวณชายหาดเกาะคอเขา ว่า โลมาตัวดังกล่าวเป็นโลมาลายแถบ เพศผู้ อายุประมาณ 5 ปี ซึ่งทางสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลฯ รับโลมาตัวดังกล่าวมาในเวลา 14.50 น. ของวานนี้ (8 ก.ย.)
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ฉีดยาปฏิชีวนะให้แก่โลมาตัวดังกล่าว และได้นำลงไปยังบ่อพักฟื้นเพื่อให้โลมาได้ว่ายน้ำ แต่ก็ไม่สามารถว่ายน้ำ เนื่องจากโลมาตัวดังกล่าวไม่มีแรงอ่อนเพลีย กล้ามเนื้อเกร็ง เจ้าหน้าที่จึงช่วยประคองให้ว่าย และดูแลอย่างใกล้ชิด แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโลมาดังกล่าวมีอาการอ่อนเพลียมาก และมีอาการป่วยอย่างหนักเจ้าหน้าที่พยายามที่จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่แต่โลมาตัวดังกล่าวก็ตายลงในเวลา 15.30 น.
น.ส.พัชราภรณ์ กล่าวต่อไปอีกว่า โลมาตัวดังกล่าวเป็นโลมาลายแถบเพศผู้ อายุไม่เกิน 5 ปี ยาว 1.88 เมตร น้ำหนัก 49 กิโลกรัม ซึ่งโลมาชนิดนี้พบได้บ่อยในฝั่งทะเลอันดามัน ในเบื้องต้นคาดว่าโลมาตัวดังกล่าวมีอาการป่วยติดเชื้อภายในอย่างรุนแรงจนเกิดอาการช็อก และตาย ซึ่งในวันนี้ (9 ก.ย.) ทางเจ้าหน้าที่จะผ่าซากโลมาเพื่อหาสาเหตุการณ์ตายที่แท้จริงอีกครั้ง
ขณะที่ นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ หัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในช่วง 2 วันนี้ ในฝั่งอันดามันได้รับแจ้งมีโลมาถูกคลื่นซัดมาเกยตื้น จำนวน 2 ตัวแล้ว โดยตัวแรกเป็นโลมาปากขวด อายุประมาณ 5-10 ปี ซึ่งเป็นโลมาตัวเต็มวัย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าร่างกายยังแข็งแรง และสามารถว่ายน้ำได้เองจึงมีการผลักดันกลับทะเลจนประสบความสำเร็จ สำหรับอีกตัว คือ ตัวที่พบถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นที่เกาะคอเขา จ.พังงา พบว่าโลมาตัวดังกล่าวไม่สามารถว่ายน้ำเองได้ และคาดว่าจะมีอาการป่วยภายในซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และตายในที่สุด
เมื่อวานนี้ (8 ก.ย.) น.ส.พัชราภรณ์ แก้วโม่ง สัตวแพทย์ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีชาวบ้านเกาะคอเขา จงพังงา พบโลมาขนาดใหญ่ถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นบริเวณชายหาดเกาะคอเขา ว่า โลมาตัวดังกล่าวเป็นโลมาลายแถบ เพศผู้ อายุประมาณ 5 ปี ซึ่งทางสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลฯ รับโลมาตัวดังกล่าวมาในเวลา 14.50 น. ของวานนี้ (8 ก.ย.)
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ฉีดยาปฏิชีวนะให้แก่โลมาตัวดังกล่าว และได้นำลงไปยังบ่อพักฟื้นเพื่อให้โลมาได้ว่ายน้ำ แต่ก็ไม่สามารถว่ายน้ำ เนื่องจากโลมาตัวดังกล่าวไม่มีแรงอ่อนเพลีย กล้ามเนื้อเกร็ง เจ้าหน้าที่จึงช่วยประคองให้ว่าย และดูแลอย่างใกล้ชิด แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโลมาดังกล่าวมีอาการอ่อนเพลียมาก และมีอาการป่วยอย่างหนักเจ้าหน้าที่พยายามที่จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่แต่โลมาตัวดังกล่าวก็ตายลงในเวลา 15.30 น.
น.ส.พัชราภรณ์ กล่าวต่อไปอีกว่า โลมาตัวดังกล่าวเป็นโลมาลายแถบเพศผู้ อายุไม่เกิน 5 ปี ยาว 1.88 เมตร น้ำหนัก 49 กิโลกรัม ซึ่งโลมาชนิดนี้พบได้บ่อยในฝั่งทะเลอันดามัน ในเบื้องต้นคาดว่าโลมาตัวดังกล่าวมีอาการป่วยติดเชื้อภายในอย่างรุนแรงจนเกิดอาการช็อก และตาย ซึ่งในวันนี้ (9 ก.ย.) ทางเจ้าหน้าที่จะผ่าซากโลมาเพื่อหาสาเหตุการณ์ตายที่แท้จริงอีกครั้ง
ขณะที่ นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ หัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในช่วง 2 วันนี้ ในฝั่งอันดามันได้รับแจ้งมีโลมาถูกคลื่นซัดมาเกยตื้น จำนวน 2 ตัวแล้ว โดยตัวแรกเป็นโลมาปากขวด อายุประมาณ 5-10 ปี ซึ่งเป็นโลมาตัวเต็มวัย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าร่างกายยังแข็งแรง และสามารถว่ายน้ำได้เองจึงมีการผลักดันกลับทะเลจนประสบความสำเร็จ สำหรับอีกตัว คือ ตัวที่พบถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นที่เกาะคอเขา จ.พังงา พบว่าโลมาตัวดังกล่าวไม่สามารถว่ายน้ำเองได้ และคาดว่าจะมีอาการป่วยภายในซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และตายในที่สุด