ยะลา - ผู้ว่าฯ ยะลา เสนอโครงการขยายถนนสายเบตง-ยะลา สร้างความสะดวกสบายในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ หวังส่งเสริมการท่องเที่ยว และถือเป็นแนวทางการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ด้วย เพราะทำให้การสัญจรไปมาของเจ้าหน้าที่มีความสะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (2 ก.ย.) นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า หลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเปิดสะพานข้ามทะเลสาบฮาลาบาลา ช่วงปลายปี 2555 ที่ผ่านมา ในครั้งนั้นตนเองได้มอบแผนแม่บทการท่องเที่ยวจากเบตง มายังป่าฮาลาบาลา ให้แก่นายกรัฐมนตรี รวมทั้งได้ส่งไปให้หน่วยงานต่างๆ แล้ว โดยในครั้งนั้นตนเองได้เสนอทางกรมทางหลวงให้ซ่อมแซมเส้นทางจาก อ.เบตง มาถึงสะพานข้ามทะเลสาบฮาลาบาลา ซึ่งในปี 2556 นี้ นายกรัฐมนตรี ก็ได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคม และกรมทางหลวง มาปรับปรุงเส้นทางจนแล้วเสร็จเกือบหมดแล้ว คือ การปรับปรุงผิวการจราจร และขยายไหล่ทางตามงบที่มีอยู่ของปี 2556
“ส่วนในปี 2557 นี้ ทางจังหวัดก็ได้นำเสนอโครงการเป็นโครงการขนาดใหญ่ โดยให้กรมทางหลวงเป็นผู้ดำเนินการ ร่วมกับทางหลวงชนบท คือ การขยายถนนจากด่านเบตง ผ่านตัวเมืองเบตง จนมาถึงสะพานข้ามทะเลสาบฮาลาบาลา ผ่านเข้าตัวเมืองยะลา อ.ยะหา อ.กาบัง และไปเชื่อมต่อกับเส้นทางที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เพื่อไปเชื่อมกับด่านประกอบชายแดนไทย-มาเลเซีย ซึ่งโครงการนี้ทางท่านนายกรัฐมนตรี ได้บรรจุลงในแผนงบประมาณ 2557 โดยโครงการนี้เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จก็จะเป็นโครงข่ายคมนาคมจากด่านเบตง ไปยังด่านประกอบ จะเป็นประโยชน์ในการขนส่งยางพารา ผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียนที่ออกสู่ตลาดในปีที่แล้วมากถึง 22,000 ตัน และเป็นที่ยอมรับแล้วว่า ทุเรียนหมอนทอง ของ จ.ยะลา เป็นทุเรียนหมอนทองที่อร่อยที่สุดในประเทศไทย
“นอกจากนั้น ก็จะได้เส้นทางการท่องเที่ยว ซึ่งก็จะเสริมวาระของจังหวัดที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวจากเบตง สู่ฮาลาบาลา และคูหาภิมุข ที่มีถ้ำ 2 ถ้ำในเขตเมืองยะลา คือถ้ำศิลป์ และถ้ำพระนอน โดยในเรื่องของถนนนั้น ในปีงบประมาณ 2557 ทางจังหวัดก็จะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ” ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าว
นายเดชรัฐ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับการพัฒนาเส้นทางการเดินทางในครั้งนี้ ก็ถือเป็นแนวทางการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ด้วย เพราะจะทำให้การสัญจรไปมาของเจ้าหน้าที่มีความสะดวกมากขึ้น และรวดเร็วมากขึ้น แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ประชาชนได้รับประโยชน์จากโครงการนี้