ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ตามรวบ 2 ผู้ต้องหาหลังตระเวนก่อเหตุขโมยทรัพย์สินชาวบ้าน โดยอาศัยช่วงที่ไม่มีใครอาศัยอยู่ ได้ของกลางหลายรายการ มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ด้านเจ้าตัวรับสารภาพ หลังก่อเหตุนำเงินที่ได้ไปเที่ยวเตร่
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (1 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต นำโดย พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต ร.ต.อ.ตะวัน เลขมาศ ร.ต.ต.คำนึง จันทร์เพ็ญ ด.ต.สุทน ภักดี ด.ต.มีศักดิ์ อาดำ ด.ต.สุบิน โรจน์สุวรรณ ด.ต.สะอาด ศรีรัญ ด.ต.ชาตรี ศรีเจริญ จ.ส.ต.พิษณุ บุญธรรม จ.ส.ต.ชวลิต สุขเสรี จ.ส.ต.สุชาติ วุ่นบัว และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเมืองภูเก็ตอีกจำนวนหนึ่ง ร่วมกันจับกุม นายเอกชัย (เอก) แซ่กั้ง อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดตรัง และนายวัชระ (โจ้) เชื้อมณี อายุ 37 ปี ชาวจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยของกลางคอมพิวเตอร์เน็ตบุ๊ก จำนวน 7 เครื่อง คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 3 เครื่อง จตุคามรามเทพกว่า 100 องค์ พระเครื่องอีกหลายองค์ รถยนต์กระบะบี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ หมายเลขทะเบียน บฉ 726 พังงา จำนวน 1 คัน รถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน โทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป นาฬิกา สร้อยคอ และทรัพย์สินอื่นๆ ที่มีค่าอีกจำนวนมาก หลังจากก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์สร้างความเดือดร้อนทั่วเกาะภูเก็ต
ซึ่งพฤติกรรมคนร้ายในครั้งนี้ได้มีการขับรถจักรยานยนต์ตระเวนดูบ้านที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ และดูบ้านหลังไหนที่ใส่กุญแจไว้หน้าบ้าน จากนั้นคนร้ายได้ใช้คีมตัดเหล็กตัดกุญแจเข้าไปลักทรัพย์ พร้อมรื้อค้นทรัพย์สินภายในบ้านกระจัดกระจายไปทั่วบ้าน และบางครั้งได้กินน้ำ และกินขนมทิ้งไว้ให้เจ้าของบ้านดูอีกด้วย ประกอบกับขณะนี้ได้มีผู้เสียหายหลายรายได้มาดูของกลางแล้ว
พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต กล่าวว่า ในการจับกุมครั้งนี้ผู้ต้องหา 2 คน พร้อมของกลางกว่า 100 รายการ โดยสามารถจับกุม นายเอกชัย แซ่กั้ง ได้ที่บริเวณบ้านเช่าไม่มีเลขที่ ซอยศักดิเดชน์ซอย 5 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากนั้นได้ขยายผลไปจับกุม นายวัชระ เชื้อมณี อายุ 37 ปี ได้ที่อพาร์ตเมนต์อุดมสุข ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังจากจับกุมเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องทั้ง 2 คนมาสอบสวนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าได้ก่อเหตุลักทรัพย์ทั่วเกาะภูเก็ต ทำมาแล้วกว่า 20 ครั้ง ซึ่งพฤติกรรมนั้นได้ใช้คีมตัดกุญแจตัดกุญแจก่อนเปิดประตูเข้าไปขโมยทรัพย์สินในอาคาร จากนั้นก็ได้นำทรัพย์สินไปขาย และได้นำเงินไปเที่ยวเตร่ หากเงินหมดแล้วจะลงมือก่อเหตุจนกระทั่งถูกจับกุม
