ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดสุรินทร์ โรดโชว์ภูเก็ต นำผู้ประกอบการร่วมงาน “มหกรรมผ้าไหม และโอทอปจังหวัดสุรินทร์” ระหว่างวันที่ 30 ส.ค.-3 ก.ย.56 หวังเชื่อมโยง และเพิ่มช่องทางการตลาดผ้าไหม และผลิตภัณฑ์โอทอป
วันนี้ (31 ส.ค.) ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ชาวภูเก็ต รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติจำนวนมาก ร่วมชม และเลือกซื้อสินค้าภายในงาน “มหกรรมผ้าไหม และโอทอปจังหวัดสุรินทร์” ซึ่งทางจังหวัดสุรินทร์ โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 30 ส.ค.-3 ก.ย. ณ บริเวณลานอเนกประสงค์ ของศูนย์การค้าฯ ซึ่งได้มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยนายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานในพิธีฯ เปิดงาน
สำหรับกิจกรรมภายในงาน มีการออกร้านแสดง และจำหน่ายผ้าไหม และผลิตภัณฑ์สินค้าโอทอปของจังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดอื่นๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ประกอบด้วย ผ้าไหมและผลิตภัณฑ์ เครื่องประดับเงินและหินสี ข้ามหอมมะลิและผลิตภัณฑ์ข้าวหมอมะลิ บะหมี่ข้าวกล้อง น้ำพริก เครื่องสำอางสมุนไพร ผลิตภัณฑ์สปา และอาหารเด่น จำนวนรวม 180 บูท นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการผ้าไหมสุรินทร์ การแสดงศิลปวัฒนธรรมภาคอีสาน ซึ่งจะจัดไปจนถึงวันที่ 3 กันยายน 2556 นี้
นายสิทธิพร บางแก้ว พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จังหวัดสุรินทร์ ได้จัดสรรงบประมาณตามแผนพัฒนาจังหวัดสุรินทร์ ปีงบประมาณ 2556 ให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ดำเนินโครงการส่งเสริม และเพิ่มศักยภาพด้านการตลาดผ้าไหมและผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น จ.สุรินทร์ เพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ผ้าไหมและผลิตภัณฑ์โอทอป เชื่อมโยงและเพิ่มช่องทางการตลาดผ้าไหม และผลิตภัณฑ์โอทอป เปิดโอกาสให้กลุ่มผู้ผลิตเส้นไหม/ผู้ประกอบการได้พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันทั้งของจังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดอื่นๆ รวมทั้งเพื่อเผยแพร่ของดี และวัฒนธรรมเด่นของจังหวัดสุรินทร์ และท้องถิ่นอีสานด้วย
ขณะที่ นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวด้วยว่า จังหวัดสุรินทร์ กำหนดวิสัยทัศน์ว่า เกษตรอินทรีย์เป็นเลิศ เปิดประตูสู่สากล โดยมียุทธศาสตร์ 5 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ ด้านการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันด้านเศรษฐกิจ ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ด้านการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน และด้านความมั่นคงชายแดน ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ จึงเป็นกิจกรรมที่สนับสนุน และส่งเสริมวิสัยทัศน์ของจังหวัดได้เป็นอย่างดี นั่นคือ เป็นการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันด้านเศรษฐกิจของจังหวัด และการส่งเสริมและพัฒนาการบริหารจัดการผลิตภัณฑ์ชุมชน (โอทอป) ประกอบกับการเลือกมาจัดกิจกรรมที่จังหวัดภูเก็ตนั้น เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพทางการท่องเที่ยว และมีฐานะทางเศรษฐกิจดี ประชาชนมีกำลังซื้อ ซึ่งจะก่อให้เกิดการค้าขายระหว่างกันต่อไปในอนาคตด้วย
วันนี้ (31 ส.ค.) ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ชาวภูเก็ต รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติจำนวนมาก ร่วมชม และเลือกซื้อสินค้าภายในงาน “มหกรรมผ้าไหม และโอทอปจังหวัดสุรินทร์” ซึ่งทางจังหวัดสุรินทร์ โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 30 ส.ค.-3 ก.ย. ณ บริเวณลานอเนกประสงค์ ของศูนย์การค้าฯ ซึ่งได้มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยนายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานในพิธีฯ เปิดงาน
สำหรับกิจกรรมภายในงาน มีการออกร้านแสดง และจำหน่ายผ้าไหม และผลิตภัณฑ์สินค้าโอทอปของจังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดอื่นๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ประกอบด้วย ผ้าไหมและผลิตภัณฑ์ เครื่องประดับเงินและหินสี ข้ามหอมมะลิและผลิตภัณฑ์ข้าวหมอมะลิ บะหมี่ข้าวกล้อง น้ำพริก เครื่องสำอางสมุนไพร ผลิตภัณฑ์สปา และอาหารเด่น จำนวนรวม 180 บูท นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการผ้าไหมสุรินทร์ การแสดงศิลปวัฒนธรรมภาคอีสาน ซึ่งจะจัดไปจนถึงวันที่ 3 กันยายน 2556 นี้
นายสิทธิพร บางแก้ว พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จังหวัดสุรินทร์ ได้จัดสรรงบประมาณตามแผนพัฒนาจังหวัดสุรินทร์ ปีงบประมาณ 2556 ให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ดำเนินโครงการส่งเสริม และเพิ่มศักยภาพด้านการตลาดผ้าไหมและผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น จ.สุรินทร์ เพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ผ้าไหมและผลิตภัณฑ์โอทอป เชื่อมโยงและเพิ่มช่องทางการตลาดผ้าไหม และผลิตภัณฑ์โอทอป เปิดโอกาสให้กลุ่มผู้ผลิตเส้นไหม/ผู้ประกอบการได้พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันทั้งของจังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดอื่นๆ รวมทั้งเพื่อเผยแพร่ของดี และวัฒนธรรมเด่นของจังหวัดสุรินทร์ และท้องถิ่นอีสานด้วย
ขณะที่ นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวด้วยว่า จังหวัดสุรินทร์ กำหนดวิสัยทัศน์ว่า เกษตรอินทรีย์เป็นเลิศ เปิดประตูสู่สากล โดยมียุทธศาสตร์ 5 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ ด้านการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันด้านเศรษฐกิจ ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ด้านการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน และด้านความมั่นคงชายแดน ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ จึงเป็นกิจกรรมที่สนับสนุน และส่งเสริมวิสัยทัศน์ของจังหวัดได้เป็นอย่างดี นั่นคือ เป็นการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันด้านเศรษฐกิจของจังหวัด และการส่งเสริมและพัฒนาการบริหารจัดการผลิตภัณฑ์ชุมชน (โอทอป) ประกอบกับการเลือกมาจัดกิจกรรมที่จังหวัดภูเก็ตนั้น เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพทางการท่องเที่ยว และมีฐานะทางเศรษฐกิจดี ประชาชนมีกำลังซื้อ ซึ่งจะก่อให้เกิดการค้าขายระหว่างกันต่อไปในอนาคตด้วย