หมอกควันอินโดฯ ปกคลุมเมืองเบตง แต่ยังไม่กระทบทัศนวิสัยการขับขี่รถ

ยะลา - หมอกควันจากไฟป่าบนเกาะสุมาตราพัด ปกคลุม อ.เบตง ส่งผลให้ฟ้าหลัว แต่ยังไม่กระทบทัศนวิสัยในการสัญจรบนถนน แนะประชาชนที่อาศัยบริเวณหมอกควันหนาแน่นควรดื่มน้ำบ่อยๆ และเลี่ยงการออกกำลังกายและทำงานหนักที่ต้องออกแรงมาก

วันนี้ (29 ส.ค.) สถานการณ์หมอกควันจากไฟไหม้ป่าบนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ได้พัดเข้ามาปกคลุมในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา ตลอดทั้งวัน ทำให้ท้องฟ้าหลัว เนื่องจากมาจากปริมาณหมอกควันที่ปกคลุมทั่วท้องฟ้า และสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว แต่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อทัศนวิสัยในการสัญจรตามท้องถนน

ขณะที่ทางสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 16 สงขลา ได้ออกรายงานสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ภาคใต้ ฉบับที่ 2 พบว่า จำนวนจุดที่เกิดไฟไหม้บนเกาะสุมาตราเพิ่มขึ้นจาก 227 จุด เป็น 437 จุด ส่งผลให้คุณภาพอากาศของพื้นที่ภาคใต้ คือ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต สงขลา นราธิวาส และยะลา มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก แต่ยังไม่เกิน 10 ไมครอน (PM 10) ซึ่งมีค่าเพิ่มขึ้นจากเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่คุณภาพอากาศยังอยู่ในเกณฑ์ดี และปานกลาง

ด้านนายประเวศ แสนหล้า หัวหน้าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ อำเภอเบตง กล่าวว่า ในขณะนี้ในพื้นที่มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก แต่ยังไม่เกิน 10 ไมครอน (PM 10) ขณะเดียวกัน ทางประเทศมาเลเซียได้เพิ่มแรงกดดันต่อประเทศอินโดนีเซีย ให้เร่งจัดการปัญหาหมอกควันจากไฟป่าบนเกาะสุมาตรา ที่กำลังเป็นมลพิษทางอากาศสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประเทศเพื่อนบ้าน

ในด้านการป้องกัน ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่มีปริมาณหมอกควันหนาแน่นให้ใช้ผ้าชุบน้ำพอหมาดๆ ปิดจมูก และปาก รวมทั้งปิดหน้าต่าง และประตูเพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นควันเข้าไปภายในบ้าน โดยเฉพาะเด็ก คนชรา ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ หอบหืด ควรดื่มน้ำบ่อยๆ และเลี่ยงการออกกำลังกาย รวมทั้งการทำงานหนักที่ต้องออกแรงมากในบริเวณที่มีฝุ่นควันดังกล่าว