ตร.ตรวจเข้มผู้เข้าเขตชุมนุมม็อบยาง พ่อเมืองคอนเตรียมยื่นอุทธรณ์พึ่งอำนาจศาลขอคืนพื้นที่

นครศรีธรรมราช - การชุมนุมของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางยังคงเป็นไปด้วยความตึงเครียด ตร.ตั้งจุดสกัดตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายก่อนเข้าพื้นที่ชุมนุม ผู้ว่าราชการจังหวัด เตรียมยื่นอุทธรณ์พึ่งอำนาจศาลขอคืนพื้นที่สาธารณะ มีรายงานว่า พระสงฆ์ และ นร. เตรียมเข้าขอร้องม็อบให้เปิดเส้นทางแยกบ้านตูลด้วย

ความคืบหน้าสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช วันนี้ (28 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจจากหลายท้องที่ได้เข้ามาประจำการในพื้นที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.ร่อนพิบูลย์ และ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพื้นที่รายรอบจุดชุมนุมบริเวณแยกควนหนองหงส์ และแยกควนเงิน ต.บ้านตูล อ.ชะอวด ซึ่งยังคงมีการปิดกั้นทางรถไฟเช่นเดิม โดยทุกเส้นทางที่สามารถเดินทางเข้าพื้นที่ชุมนุม เจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดสกัดจุดตรวจเพื่อตรวจค้นรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่เดินทางเข้าพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการขนส่งสิ่งของผิดกฎหมายเข้าพื้นที่ชุมนุม

และเมื่อช่วงสายวันนี้ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ร่วมประชุมกับนายศักดิ์ชัย ชัยเชื้อ นายอำเภอชะอวด พล.ต.ท.สุทัศน์ ชาญสวัสดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช และคณะแพทย์ พยาบาล จากโรงพยาบาลชะอวด เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งการขนย้ายผู้ป่วยอาการหนัก ที่ต้องนำส่งโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช และโรงพยาบาลพัทลุง การขนยาเวชภัณฑ์ ที่ไม่สามารถขนย้ายเข้ามาในพื้นที่ได้

ส่วนความเคลื่อนไหวในพื้นที่ชุมนุมนั้น พบว่าเป็นไปด้วยความตึงเครียด มีการสังเกตการณ์พื้นที่ชุมนุม และคัดกรองบุคคลที่จะเข้าพื้นที่อย่างเข้มงวด โดยกลุ่มผู้สื่อข่าวจะต้องแสดงบัตรประจำตัวผู้สื่อข่าว ก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้เข้าไปบันทึกภาพ ส่วนผู้สื่อข่าวในสำนักข่าวที่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่พอใจจะไม่อนุญาตให้เข้าพื้นที่

สำหรับความพยายามในการแก้ไขปัญหา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านนครศรีธรรมราช ได้มีตัวแทนกำนันจากหลายอำเภอ กว่า 30 คน เข้าร่วมประชุมเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาในพื้นที่มีการประชุมอย่างเคร่งเครียด โดยในที่สุดได้มีมติส่งตัวแทน คือ นายสมบูรณ์ ชุมทอง กำนัน ต.ขอนหาด อ.ชะอวด เดินทางมายังจุดชุมนุมบริเวณแยกบ้านตูล และได้ขึ้นเวทีพูดคุยทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ชุมนุม

โดยแสดงความเห็นใจ และยืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นประชาชนได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง หลายฝ่ายอยากให้มีการเปิดการจราจร แต่อย่างไรก็ตาม การพยายามพูดคุยกับกลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่ประสบผลเป็นครั้งที่ 2 โดยมีความพยายามมาตลอดทั้ง 2 วัน

ขณะเดียวกัน ได้มีความปั่นป่วนขึ้นเนื่องจากมีเฮลิคอปเตอร์บินร่อนลงต่ำ และบินผ่านจุดชุมนุม ส่งผลให้กระแสลมแรงจากโรเตอร์พัดเต็นท์ และสิ่งของบริเวณดังกล่าวกระจุยกระจาย สร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้ชุมนุมเป็นอย่างมาก ก่อนที่บนเวทีจะค่อยๆ ทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุม สถานการณ์จึงคลี่คลายลงไป

ภายหลังจากการพูดคุยกับกลุ่มผู้ชุมนุม นายยงยศ แก้วเขียว นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านนครศรีธรรมราช ได้เปิดการแถลงข่าวอีกครั้ง โดยสาระสำคัญนั้นเป็นการเรียกร้องให้มีการเปิดการจราจร

นายยงยศ แก้วเขียว นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า ขณะนี้ความเดือดร้อนได้ลุกลาม โดยเฉพาะการเดินทางด้วยรถไฟ ขอให้ผู้ชุมนุมถอนออกไปจากการปิดแยกบ้านตูล และขอให้มีการประท้วงที่อื่น ซึ่งจะไม่ขัดข้อง ทั้งนี้ มีการเรียกร้องจากชมรม อสม.อำเภอชะอวด ขอให้มีการเปิดเส้นทางเพื่อการดูแลผู้ที่เจ็บป่วย ขณะเดียวกัน ขณะนี้ทราบว่าจะมีพระสงฆ์ และนักเรียน นักศึกษาจะไปขอร้องกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย

เช่นเดียวกับ นางเพ็ญศรี ทองบุญยัง กำนัน ต.เขาพระทอง อ.ชะอวด ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน ระบุว่า ผลกระทบได้ลุกลามไปจนถึงการปิดโรงเรียนในพื้นที่แล้ว จำนวน 4 โรง และเรื่องของการขนส่งผู้ป่วยเกิดผลกระทบต่อผู้ป่วย

ส่วนการดำเนินการทางกฎหมาย หลังจากที่ศาลได้ออกหมายจับผู้ร่วมชุมนุม 11 คน ที่เป็นกลุ่มนำแล้วนั้น เจ้าหน้าที่ได้เร่งสืบสวนถึงที่อาศัยเพื่อดำเนินการจับกุม นอกจากผู้ต้องหาก่อนหน้านี้จำนวน 13 คน ที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวไปแล้ว และจะออกหมายเรียกติดตามมาตัวดำเนินคดีในภายหลัง

ส่วนการดำเนินการทางกฎหมายเรื่องการขอคืนพื้นที่ หลังจากที่ศาลได้ยกคำร้องของผู้แทนรับมอบอำนาจของนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เนื่องจากเหตุผลที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจเต็มในการบังคับใช้กฎหมายอยู่แล้ว ขณะนี้ทีมกฎหมายของผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กำลังเตรียมอุทธรณ์อีกครั้ง