xs
xsm
sm
md
lg

ภูเก็ตจัดเลี้ยงอาหารกลางวันพระราชทานแก่ผู้ต้องขังหญิง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ต จัดเลี้ยงอาหารกลางวันพระราชทานแก่ผู้ต้องขังหญิง โครงการน้ำพระทัยพระราชทาน สู่ภูมิภาค 76 จังหวัด เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (18 ส.ค.) ที่เรือนจำจังหวัดภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิดการจัดกิจกรรมโครงการน้ำพระทัยพระราชทาน สู่ภูมิภาค 76 จังหวัด เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งทางสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ร่วมกับจังหวัดภูเก็ตจัดขึ้น มีนางภาวิณี อินทุสุต นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายระพินทร์ นิชานนท์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ กรรมการและสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต ชมรมแม่บ้านมหาดไทย จังหวัดภูเก็ต ชมรมแม่ดีเด่นแห่งชาติ ประจำจังหวัดภูเก็ต และผู้เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้ต้องขังหญิงเข้าร่วม

นางภาวิณี กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดกิจกรรมภายใต้โครงการฯ ดังกล่าวว่า เนื่องในโอกาสที่โครงการน้ำพระทัยพระราชทาน สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ตามพระราชเสาวนีย์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ดำเนินมาเป็นปีที่ 15 สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ จึงถือโอกาสนี้ ร่วมกับจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ รวม 76 จังหวัด จัดกิจกรรมโครงการน้ำพระทัยพระราชทานเลี้ยงอาหารกลางวันแก่ผู้ตกงาน และผู้ประสบความทุกข์ยากเดือดร้อน และกิจกรรมอื่นๆ ตามความเหมาะสม ในช่วงเดือนสิงหาคม 2556 เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

การจัดงานครั้งนี้ จังหวัดภูเก็ต ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต ประธานชมรมแม่บ้านมหาดไทย จังหวัดภูเก็ต ประธานกรรมการประสานงานส่วนภูมิภาค สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ ประธานชมรมแม่ดีเด่นแห่งชาติ ประจำจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนหน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน รวมทั้งผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน การจัดกิจกรรมของจังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วยการเลี้ยงอาหารกลางวันพระราชทานตามโครงการน้ำพระทัยพระราชทานแก่ผู้ต้องขังหญิง การแสดง และการร้องเพลงของผู้ต้องขังหญิง นางภาวิณี กล่าวในที่สุด

กำลังโหลดความคิดเห็น