ระนอง - “วิโรจน์ แสงศิวะฤทธิ์” รอง ผวจ.ระนอง สั่งเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบกรณีครอบครองพื้นที่ป่าไม้อย่างผิดกฎหมาย พร้อมกำชับต้องนำพื้นที่ที่ถูกบุกรุกกลับคืนให้ภาครัฐ เบื้องต้นพบผู้กระทำผิดระหว่างเดือน มิ.ย.-ก.ค.นี้ จำนวน 31 คดี มีผู้ต้องหา 9 ราย
วันนี้ (7 ส.ค.) ที่ห้องประชุมโกมาซุม ศาลากลางจังหวัดระนอง นายวิโรจน์ แสงศิวะฤทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า จากกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำชับหน่วยงานที่ดูแลรักษาป่าไม้และเพิ่มมาตรการเข้มงวดในการป้องกันรักษาป่าที่เหลืออยู่ อย่าให้มีการบุกรุกป่าใหม่อย่างเด็ดขาด ประกอบกับนโยบาย ว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เน้นย้ำว่าพื้นที่ป่าไม้ถูกบุกรุกต้องเอาคืนมาให้ได้นั้น
ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า ระดับจังหวัดของจังหวัดระนอง จึงได้แจ้งบูรณาการความร่วมมือระหว่างจังหวัด อำเภอ กับหน่วยงานองค์กรปกครองท้องถิ่น ทหาร ตำรวจ ประชาชนในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานเร่งดำเนินตามมาตรการเชิงรุก เมื่อมีการบุกรุกป่าเกิดขึ้น ต้องยึดคืนพื้นที่ป่ากลับคืนมา และปลูกป่าทดแทนโดยทันที ทุกราย ทุกแปลง ซึ่งไม่ต้องรอผลคดี เพื่อไม่ให้มีการบุกรุกป่าเกิดขึ้น และรักษาพื้นที่กลับคืนสู่สภาพป่าดังเดิม และติดตามผลการบุกรุกพื้นที่สาธารณประโยชน์บริเวณภูเขาหญ้า หมู่ที่ 1 ตำบลหงาว อำเภอเมืองระนอง และผลการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า ระดับอำเภอ ชุดปฏิบัติการระดับหมู่บ้าน เพื่อร่วมกันป้องกันการตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่ทั้ง 5 อำเภอของจังหวัดระนองอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม จากการรายงานการกระทำผิดกฎหมายของกรมป่าไม้ พบว่า ระหว่างเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2556 ของจังหวัดระนอง พบว่า มีผู้กระทำผิดรวม 31 คดี ผู้ต้องหา 9 คน เนื้อที่ 253 ไร่ 62 ตารางวา
วันนี้ (7 ส.ค.) ที่ห้องประชุมโกมาซุม ศาลากลางจังหวัดระนอง นายวิโรจน์ แสงศิวะฤทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า จากกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำชับหน่วยงานที่ดูแลรักษาป่าไม้และเพิ่มมาตรการเข้มงวดในการป้องกันรักษาป่าที่เหลืออยู่ อย่าให้มีการบุกรุกป่าใหม่อย่างเด็ดขาด ประกอบกับนโยบาย ว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เน้นย้ำว่าพื้นที่ป่าไม้ถูกบุกรุกต้องเอาคืนมาให้ได้นั้น
ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า ระดับจังหวัดของจังหวัดระนอง จึงได้แจ้งบูรณาการความร่วมมือระหว่างจังหวัด อำเภอ กับหน่วยงานองค์กรปกครองท้องถิ่น ทหาร ตำรวจ ประชาชนในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานเร่งดำเนินตามมาตรการเชิงรุก เมื่อมีการบุกรุกป่าเกิดขึ้น ต้องยึดคืนพื้นที่ป่ากลับคืนมา และปลูกป่าทดแทนโดยทันที ทุกราย ทุกแปลง ซึ่งไม่ต้องรอผลคดี เพื่อไม่ให้มีการบุกรุกป่าเกิดขึ้น และรักษาพื้นที่กลับคืนสู่สภาพป่าดังเดิม และติดตามผลการบุกรุกพื้นที่สาธารณประโยชน์บริเวณภูเขาหญ้า หมู่ที่ 1 ตำบลหงาว อำเภอเมืองระนอง และผลการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า ระดับอำเภอ ชุดปฏิบัติการระดับหมู่บ้าน เพื่อร่วมกันป้องกันการตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่ทั้ง 5 อำเภอของจังหวัดระนองอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม จากการรายงานการกระทำผิดกฎหมายของกรมป่าไม้ พบว่า ระหว่างเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2556 ของจังหวัดระนอง พบว่า มีผู้กระทำผิดรวม 31 คดี ผู้ต้องหา 9 คน เนื้อที่ 253 ไร่ 62 ตารางวา