ชุมพร - ชาวบ้าน ต.หินแก้ว อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร โวยถนนเข้าหมู่บ้านชำรุดเสียหายมานานกว่า 4 ปี ไม่มีหน่วยงานเกี่ยวข้องเหลียวแล วอนนักการเมืองช่วยเข้ามาแก้ไขเหมือนตอนหาเสียงชูนโยบายว่า ทุกพื้นที่จะต้อง “น้ำไหล ไฟสว่าง ทางสะดวก”
วันนี้ (5 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ ต.หินแก้ว อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ว่าถนนสายทางเข้าหมู่บ้านสายในโสม-หินแก้ว ต.หินแก้ว อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้รับความเสียหายมานานหลายปีไร้การเหลียวแลจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ ทำให้ได้รับความเดือดร้อนต้องทนทุกข์ทรมานในการสัญจรไปมาเป็นอย่างมาก
จากการตรวจสอบพบว่า ถนนสายดังกล่าวเป็นถนนสายหลักเข้า-ออกหมู่บ้าน เชื่อมต่อกับถนนใหญ่เพชรเกษมบริเวณ กม.ที่ 477-478 หมู่ 8 ต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เป็นถนนลาดยาง ความกว้างประมาณ 6 เมตร ปรากฏว่า ถนนเส้นดังกล่าวลึกเข้าไปในหมู่บ้านกว่า 1 กิโลเมตร พบชำรุดพังเสียหายอย่างหนักจนกลายเป็นถนนลูกรังมีหลุมมีบ่อขนาดใหญ่ มองดูขรุขระจำนวนมาก เป็นระยะทางยาวกว่า 400 เมตร ซึ่งได้พังเสียหานมาเป็นเวลานานกว่า 4 ปีแล้ว ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในตำบลหินแก้ว อ.ท่าแซะ หลายพันครัวเรือนได้รับความเดือดร้อนอย่างมากในการสัญจรไปมา เนื่องจากเป็นถนนสายหลักของชุมชนที่มีประชาชนใช้เดินทางไปทำงาน ลำเลียงพืชผลทางการเกษตร และนักเรียน นักศึกษาใช้สัญจรไปเรียนหนังสือในตัวเมืองชุมพร อยู่เป็นประจำ
ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน เปิดเผยว่า ถนนสายดังกล่าวได้รับความเสียหายมานานกว่า 4 ปีแล้ว สาเหตุเนื่องมาจากรถบรรทุกสิบล้อ และรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ จากโรงงานปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง ได้เข้าไปบรรทุกผลผลิตปาล์มน้ำมันจากลานปาล์ม โดยรถบรรทุกน้ำหนักเกินกว่ากฎหมายกำหนดเป็นจำนวนมาก ซึ่งแต่ละคันจะบรรทุกไม่ต่ำกว่า 26 ตัน เป็นประจำเกือบทุกวัน ในขณะที่ถนนซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของถิ่น กฎหมายกำหนดรับน้ำหนักไว้ไม่เกิน 21 ตัน จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ถนนสายดังกล่าวนี้พังเสียหายอย่างหนัก จนชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก โดยเฉพาะขณะนี้ เป็นในช่วงฤดูฝนทำให้มีน้ำขังอยู่ในหลุมในบ่อบนท้องถนนช่วงที่ชำรุดเสียหาย ทำให้เกิดอุบัติเหตุจากการขับรถตกหลุมได้รับบาดเจ็บมาแล้วหลายราย
ชาวบ้านคนดังกล่าว เปิดเผยต่อว่า ได้ประสานไปยัง อบต.หินแก้ว ได้รับคำตอบว่า ท้องถิ่นไม่มีงบประมาณเพียงพอในการดำเนินการ ชาวบ้านจึงฝากถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบระดับจังหวัด ระดับประเทศ เข้าไปช่วยดูแลแก้ไขบรรเทาทุกข์ให้แก่ชาวบ้านด้วย โดยเฉพาะนักการเมืองท้องถิ่นระดับองค์การบริหารส่วนจังหวัด ที่เคยเข้าไปหาเสียงแล้วชูนโยบายหาเสียงช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมาว่า ทุกท้องถิ่นในพื้นที่ จ.ชุมพร จะต้อง “น้ำไหล ไฟสว่าง ทางสะดวก” ซึ่งได้ชูเป็นนโยบายเด่นช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมา แต่เมื่อได้รับการเลือกตั้งเข้าไปแล้วกลับไม่สนใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้น
