ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จัดยิ่งใหญ่ “พลังสตรีภูเก็ต ร่วมใจเทิดไท้องค์ราชินี” ของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดภูเก็ต มอบเกียรติบัตรแม่ดีเด่น 16 ตำบล-ทุนการศึกษา 48 ทุน
วานนี้ (3 ส.ค.) ที่ศูนย์ประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต นางธันยรัศม์ อัจฉริยะฉาย ประธานคณะกรรมาธิการท่องเที่ยว วุฒิสภา และสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดงาน “พลังสตรีภูเก็ต ร่วมใจเทิดไท้องค์ราชินี” ซึ่งทางกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดภูเก็ต จัดขึ้น มีนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางณัฐพร ผาณิตพิเชฐวงศ์ ประธานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี คณะกรรมการกองทุน ตลอดจนสมาชิกกองทุนฯ ส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาชิกชมรมและกลุ่มอาสาสมัคร รวมถึงเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชน เข้าร่วมงานจำนวนมาก
สำหรับกิจกรรมในงานมีการวางพานพุ่มเพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดภูเก็ต และตัวแทนกองพัฒนาบทบาทสตรีตำบล พิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล และถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ มอบทุนการศึกษาให้แก่เด็กนักเรียนเรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ระดับชั้นประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ตำบลละ 3 ทุน ทุนละ 1,500 บาท จำนวน 16 ตำบล รวมทั้งสิ้น 48 ทุน เป็นจำนวนเงิน 72,000 บาท พร้อมทั้งมอบเกียรติบัตรให้แก่แม่ดีเด่นแต่ละตำบล 16 ตำบล เพื่อความภาคภูมิใจ และเกียรติประวัติของครอบครัวต่อไป
นางณัฐพร ผาณิตพิเชฐวงศ์ ประธานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีฯ กล่าวว่า การจัดงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเทิดพระเกียรติ และแสดงออกถึงความจงรักภักดี รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแด่องค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 81 พรรษา 12 สิงหาคม 2556 ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ท่านทรงงานตลอดเวลา พระองค์ท่านอุทิศ และทุ่มเทพระวรกายอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย เพื่อให้สตรีและปวงชนชาวไทยได้มีอาชีพ ได้พัฒนาอาชีพ และมีความเป็นอยู่ที่ดี พระองค์ทรงอยู่เคียงข้างพสกนิกรของพระองค์ และทรงร่วมทุกข์ร่วมสุขกับประชาชนมาโดยตลอด เปรียบประดุจแม่ผู้มีแต่ความรัก และเสียสละเพื่อลูก ยังความปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
ขณะที่ นางธันยรัศม์ อัจฉริยะฉาย ประธานคณะกรรมาธิการท่องเที่ยวฯ กล่าวว่า จากพระราชจริยวัตร พระราชกรณียกิจ และโครงการต่างๆ ที่พระองค์ท่านได้ทรงนำทำเป็นแบบอย่างให้แก่ประเทศชาติมาโดยตลอด ในฐานะที่เป็นองค์ราชินีแม่ของแผ่นดินย่อมเป็นที่ประจักษ์แก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอด โดยเฉพาะโครงการศิลปาชีพที่ทรงให้โอกาสแก่ผู้หญิงที่เป็นแม่บ้าน ได้เรียนรู้ พัฒนาวิชาชีพตามที่ชอบและถนัด ตามความใฝ่ฝันของแต่ละคน เพื่อจะได้เป็นอีกหนึ่งแรงในอันที่จะช่วยให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีก็เช่นกัน ที่รัฐบาลได้กำหนดให้เป็นนโยบายสำคัญที่จะให้ผู้หญิงเราได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน สร้างอาชีพ เสริมรายได้ เพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่ครอบครัว เป็นช้างเท้าหลังที่ทรงพลังพร้อมที่จะก้าวไปกับช้างเท้าหน้าได้อย่างภาคภูมิใจ และ ณ วันนี้ผู้หญิงเราก็ได้มีการพัฒนาตนเองให้มีความรู้ ความสามารถ มีบทบาท มีขีดความสามารถในระดับก้าวหน้าที่จะช่วยเหลือครอบครัว และสังคมมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จนเป็นพลังของผู้หญิง หรือพลังสตรีที่จะช่วยขับเคลื่อน เสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่สังคม และประเทศชาติ ตามรอยพระบาทของแม่แห่งแผ่นดิน นางธันยรัศม์กล่าวในที่สุด
