พังงา - ตม.พังงา ผนึกกำลัง ตม.ระนอง และตำรวจภูธรภาค 8 รวบชาวโรฮิงญาที่หลบหนีออกจากบ้านพักเด็กและสตรีจังหวัดพังงา ได้แล้ว 5 คน จากที่หลบหนีออกไปทั้งหมด 18 คน ขณะนั่งอยู่บนรถไฟที่ชานชาลา สถานีชุมพร ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 44 สายสุราษฎร์ธานี-กรุงเทพฯ ตำรวจเชื่อมีขบวนการช่วยเหลือในการหลบหนีโดยอ้างเป็นญาติมารับ ทราบแล้วมี 2-3 ขบวนการ เร่งติดตามจับกุมมาดำเนินคดีได้เร็วๆ นี้
เมื่อเวลา 08.30 น. วันนี้ (27 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ทาง พ.ต.ท.เนติ ขันบุญ สว.ตม.จ.พังงา พ.ต.ต.กะเกณฑ์ นิกรหัสชัย สว.ตม.ระนอง พร้อมกับชุดเจ้าหน้าที่ ตม.จ.พังงา เจ้าหน้าที่ ตม.จ.ระนอง เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบ ภ.8 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.พังงา ได้ควบคุมตัว น.ส.โนชิมา อายุ 20 ปี ด.ช.มูฮัมหมัดอิสมาย อายุ 12 ปี ด.ช.มูฮัมหมัดอารอม อายุ 12 ปี ด.ช.ไลล่า อายุ 10 ปี และ ด.ช.ฟารุ อายุ 5 ขวบ ทั้งหมดเป็นชาวโรฮิงญาที่ทางเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพังงา ได้ทำการสอบสวนสืบสวนจนสามารถติดตามตัวมาได้ในขณะนั่งบนรถไฟขบวนรถด่วนพิเศษที่ 44 สายสุราษฎร์ธานี-กรุงเทพฯ ซึ่งขณะจอดที่ชานชาลาสถานีชุมพร ต.ท่าตะเภา อ.เมือง จ.ชุมพร โดยเป็นชาวโรฮิงญา จำนวน 5 คน จากจำนวน 18 คน ที่ได้หลบหนีจากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพังงา ไปเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2556 นี้ โดยทาง พ.ต.ท.เนติ ขันบุญสารวัตรด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพังงา ร่วมกับทาง พ.ต.ต.กะเกณฑ์ นิกรหัสชัย สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดระนอง เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดพังงา และชุดสืบสวนตำรวจภาค 8 ได้ร่วมกันดำเนินการสอบสวน และสืบสวนจนสามารถนำตัวกลับมาได้
จากการสอบสวนและสืบสวน ทราบว่า น.ส.โนชิมา ได้นำตัวเด็กทั้ง 4 คน หลบหนีจากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพังงา ช่วงเวลา 03.00 น. ของวันที่ 21 กรกฎาคม 2556 โดยมีขบวนการช่วยเหลือในการหลบหนี โดยมีการอ้างว่าเป็นญาติคนหนึ่งพร้อมกับนำตัวไปขึ้นรถไฟที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อไปหาญาติอีกคนที่รอรับที่กรุงเทพฯ จึงแจ้งข้อกล่าวหาแก่ น.ส.โนชิมา อายุ 20 ปี ชาวโรฮิงญา ว่า เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีไปในระหว่างที่ถูกกักตัว หรือควบคุมตามอำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 จากนั้นได้นำตัว น.ส.โนชิมา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เขาหลัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนเด็กอีกจำนวน 4 คน ได้มอบให้ทางบ้านพักเด็กและครอบครัว ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เพื่อรอผลักดันต่อไป
พ.ต.ท.เนติ ขันบุญ สารวัตรด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพังงา กล่าวว่า จากที่มีการหลบหนีของชาวโรฮิงญามาบ่อยครั้ง เนื่องจากปัญหาของเวลาที่มาถูกกักตัวไว้จำนวนกว่า 8 เดือน ที่ผ่านมา ทำให้มีชาวโรฮิงญาคิดหลบหนีจากสถานที่ต่างๆ ในการกักตัว ซึ่งยอมรับว่าหลบหนีได้บ้าง แต่อย่างไรก็ดี ทางด่านตรวจคนเข้าเมืองพังงาได้สนธิกำลังกับทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆทั้งในส่วนของทางจังหวัดพังงา ด่านตรวจคนเข้าเมืองระนอง ตำรวจภูธรจังหวัดพังงา ตำรวจภาค 8 ได้ออกติดตามสอบถามสอบสวนและสืบสวนจนกระทั่งพอทราบว่า ขณะนี้มีกลุ่มที่เป็นขบวนการที่ช่วยเหลือในการหลบหนีจำนวน 2-3 กลุ่ม รวมไปถึงขบวนการที่ตกเป็นข่าวก่อนหน้านี้ว่ามีแก๊งหรือขบวนการได้ทำการล่อลวงหญิงชาวโรงฮิงญาให้หลบหนีไปข่มขืน ซึ่งส่วนใหญ่จะอ้างเป็นญาติมาเยี่ยม และอาศัยจังหวะนำบุคคลเหล่านี้หลบหนีพร้อมกับช่วยเหลือในการส่งไปยังสถานที่ต่างๆ ซึ่งจะมีชาวโรฮิงญาที่ถูกอ้างว่าเป็นญาติมารับอีกทอดหนึ่ง โดยขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการจนพอจะทราบกลุ่มเหล่านี้แล้ว และจะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการจับกุมขบวนการเหล่านี้มาดำเนินคดีในเร็วๆ นี้ให้ได้