ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับสมาคมสตรีนักธุรกิจ จัดโครงการ “สตรีไทยห่วงใยสุขภาพเทิดไท้ 12 สิงหา มหาราชินี” ระหว่างวันที่ 1-31 สิงหาคมนี้ เพื่อรณรงค์การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งเต้านมให้แก่สตรีในจังหวัดภูเก็ต
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ที่ห้องประชุม 1 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต น.ส.ประพรศรี นรินทร์รักษ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับนางจันทรา กุลวีระอารีย์ นายกสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-ภูเก็ต สมาชิกสมาคมสตรีนักธุรกิจฯ ตลอดจนผู้บริหารโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต โรงพยาบาลสิริโรจน์ภูเก็ต และโรงพยาบาลมิชชั่นภูเก็ต แถลงข่าวการจัดทำโครงการ “สตรีไทยห่วงใยสุขภาพ เทิดไท้ 12 สิงหา มหาราชินี” เพื่อรณรงค์การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งเต้านมให้แก่สตรีในจังหวัดภูเก็ต และใกล้เคียง โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต สมาชิกสมาคมสตรีนักธุรกิจฯ ตัวแทนจากโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต โรงพยาบาลสิริโรจน์ภูเก็ต โรงพยาบาลมิชชั่นภูเก็ต และสมาชิก อสม.ภูเก็ต เข้าร่วม
น.ส.ประพรศรี นรินทร์รักษ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ด้วยในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคม 2556 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมกับสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-ภูเก็ต ได้จัดทำโครงการดังกล่าวขึ้น เพื่อรณรงค์การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งเต้านม ครั้งที่ 4 พ.ศ.2556 ให้แก่สตรีในจังหวัดภูเก็ต และใกล้เคียง ในระหว่างวันที่ 1-31 สิงหาคม 2556 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระชนมายุ 81 พรรษา รวมทั้งสนองนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข และสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์
โดยได้รับการสนับสนุนการจัดทำจัดแพกเกจพิเศษในการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (ThinPrep) และมะเร็งเต้านม (Mammogram) จากโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต ราคา 3,100 บาท (ThinPrep & Digital Mammogram) โรงพยาบาลสิริโรจน์ภูเก็ต ราคา 3,000 บาท (ThinPrep & Mammogram) โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต ราคา 1,230 บาท (ThinPrep) และโรงพยาบาลมิชชั่นภูเก็ต ราคา 1,000 บาท (ThinPrep) ในระหว่างวันที่ 1-31 สิงหาคม 2556 นอกจากนี้ ยังมีการใช้สัญลักษณ์โบชมพู-เขียว ติดเสื้อเพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนให้หญิงไทยเข้ารับการตรวจมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งเต้านมด้วย
น.ส.ประพรศรี กล่าวต่อว่า มะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของคนภูเก็ต โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม แต่โรคดังกล่าวหากตรวจพบเร็วก็จะสามารถรักษาได้ และจากการจัดกิจกรรมต่อเนื่องกันมา ทำให้มีการตรวจพบผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น จึงต้องมีโครงการรณรงค์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้หญิงได้เกิดความตระนักในการดูแลตัวเอง ซึ่งจากการจัดกิจกรรมดังกล่าวในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พบว่า เฉพาะในเดือนสิงหาคม มีผู้เข้ารับการตรวจมะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้น จากปกติที่มีการตรวจเฉลี่ยเดือนละประมาณ 1,800 คน เพิ่มเป็นประมาณ 3,600 คน และในการจัดกิจกรรมปีนี้ก็คาดว่าน่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีกกว่าเท่าตัว