ระนอง - “วิโรจน์ แสงศิวะฤทธิ์” รองผู้ว่าฯระนอง เผยระหว่างวันที่ 25 - 27 ก.ค.นี้ จะเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ วอนประชาชนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมส่งเจ้าหน้าที่เตรียมรับมือกับอุทกภัยต่าง ๆ
วันนี้ (24 ก.ค.) นายวิโรจน์ แสงศิวะฤทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า ทางกรมอุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันตก พยากรณ์อากาศระวังวันที่ 25 - 27 กรกฎาคม 2556 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงยังพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกชุดหนาแน่น ฝนตกหนักถึงหนักมากในบางแห่ง อาจทำให้น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม ลมพัดแรงกรรโชกบางแห่ง สำหรับทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร จึงขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ ส่วนเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
เพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย ดินโคลนถล่ม และคลื่นลมแรงในทะเล อันอาจจะสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย จึงขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์และข่าวพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น และสำรองปัจจัย 4 รวมทั้งติดตามข่าวสารการแจ้งเตือนอย่างต่อเนื่อง หากเกิดสถานการณ์และขอให้รายงานให้จังหวัดทราบจนกว่าสถานการณ์จะยุติทางโทรศัพท์/โทรสารหมายเลข 0-7786-2091, 0-7786-2095
วันนี้ (24 ก.ค.) นายวิโรจน์ แสงศิวะฤทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า ทางกรมอุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันตก พยากรณ์อากาศระวังวันที่ 25 - 27 กรกฎาคม 2556 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงยังพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกชุดหนาแน่น ฝนตกหนักถึงหนักมากในบางแห่ง อาจทำให้น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม ลมพัดแรงกรรโชกบางแห่ง สำหรับทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร จึงขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ ส่วนเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
เพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย ดินโคลนถล่ม และคลื่นลมแรงในทะเล อันอาจจะสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย จึงขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์และข่าวพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น และสำรองปัจจัย 4 รวมทั้งติดตามข่าวสารการแจ้งเตือนอย่างต่อเนื่อง หากเกิดสถานการณ์และขอให้รายงานให้จังหวัดทราบจนกว่าสถานการณ์จะยุติทางโทรศัพท์/โทรสารหมายเลข 0-7786-2091, 0-7786-2095
