นครศรีธรรมราช - เกิดลมหัวด้วนพัดถล่ม ขณะขบวนรถไฟสายนครศรีฯ-กทม.แล่นผ่าน หอบกิ่งไม้ฟาดทะลุกระจกหน้าหัวรถจักร ถูกพนักงานขับรถได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่แข็งใจขับรถเข้าเทียบชานชาลาบริเวณสถานีรถไฟฉวางได้ปลอดภัย
เมื่อเวลา 16.30 น. วันนี้ (16 ก.ค.) พ.ต.อ.อนันต์ หริกจันทร์ ผกก.สภ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากตำรวจรถไฟว่า มีเหตุลมพายุพัด หรือลมหัวด้วนพัดถล่มทำให้กิ่งไม้ขนาดใหญ่ลอยไปฟาด และทะลุกระจกด้านหน้าของหัวรถจักร ของขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ ส่งผลให้พนักงานขับรถจักรขบวนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ได้พยายามควบคุมขบวนรถเข้าเทียบชานชาลาบริเวณสถานีรถไฟฉวาง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ไว้ได้อย่างปลอดภัย
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เข้าให้การช่วยเหลือ พบขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ จอดเทียบชานชาลาสถานีรถไฟฉวาง โดยมีผู้โดยสารจำนวน 14 โบกี้ อยู่ในอาการตระหนก ขณะที่นายสถานีได้ประกาศแจ้งถึงเหตุการณ์ให้ผู้โดยสารทราบ พร้อมทั้งระบุว่าจะต้องรอให้หัวรถจักรจากสถานีชุมทางทุ่งสงมาสับเปลี่ยนกับหัวรถจักรที่เสียหาย เพื่อลากขบวนต่อไปยังกรุงเทพมหานคร
ส่วนสภาพหัวรถจักรดังกล่าวพบว่า เป็นหมายเลข 4138 กระจกด้านขวามือบริเวณที่ พขร.นังควบคุมขบวนรถไฟแตกทั้งบาน โดยพบว่า ในห้องของ พขร.มีเศษกระจก และเลือดสาดกระเซ็นไปทั่วห้อง และพบท่อนกิ่งไม้ขนาดใหญ่ ความยาวประมาณ 2 เมตร ตกหล่นอยู่ในห้องหัวรถจักรดังกล่าวอีกด้วย
ส่วนผู้บาดเจ็บคือ นายพูลศักดิ์ สุชาติพงศ์ อายุ 40 ปี อยู่ในสภาพแขนขวามีบาดแผลฉกรรจ์เลือดไหลไม่หยุด เจ้าหน้าที่พยายามห้ามเลือดก่อนนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชฉวาง โดยพบว่า นายพูลศักดิ์ มีบาดแผลถูกเศษกระจกบาดที่ข้อมือขวาจนเส้นเอ็นขาด เส้นเลือดได้รับความเสียหาย ซึ่งได้ปฐมพยาบาลในเบื้องต้นก่อนส่งต่อไปยังโรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช เพื่อทำการผ่าตัดต่อเส้นเอ็น
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟรวบรวมข้อมูลได้ความว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลา 13.00 น. นายพูลศักดิ์ คนเจ็บซึ่งทำหน้าที่เป็น พขร. ขบวนรถไฟดังกล่าว นำขบวนรถออกจากสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช มุ่งหน้ากรุงเทพมหานคร โดยมีนายกฤษดา สุขสวัสดิ์ อายุ 30 ปี ทำหน้าที่เป็น พรร.หรือพนักงานรักษารถ นั่งอยู่ข้างๆ ปรากฏว่า ขณะที่ขบวนรถแล่นผ่านบริเวณสะพานโค้ง ก่อนถึงสถานีรถไฟฉวางประมาณ 1 กม.ได้เกิดลมพายุฝนตกลงมาอย่างหนัก ลมพายุพัดรุนแรงจนหักต้นไม้ข้างทางรถไฟล้มระเนระนาด
ทันใดนั้นได้มีเศษกิ่งไม้ขนาดใหญ่ของต้นจามจุรี ขนาดความยาวประมาณ 2 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 นิ้ว ถูกลมพายุพัดปลิวลอยมากระแทกกระจกหัวรถจักรอย่างแรงบริเวณตรงที่นายพูลศักดิ์ จนได้รับบาดเจ็บ แต่ได้พยายามประคองขบวนรถมาจนเทียบชานชาลาสถานีรถไฟฉวางไว้ได้ และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
ขณะที่นายสุวิทย์ ประดิษฐ์ชัย ผช.นายสถานีรถไฟฉวาง ทำหน้าที่นายสถานีรถไฟฉวาง เผยว่า ทางสถานีรถไฟฉวางได้ประกาศให้ผู้โดยสารที่นั่งโดยสารขบวนรถดังกล่าว จำนวน 14 โบกี้ ทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ขบวนรถนี้ไม่สามารถวิ่งต่อไปได้ ซึ่งจำเป็นต้องรอหัวรถจักรจากโรงหัวรถจักรสถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง มาสับเปลี่ยนหัวรถจักรใหม่ เพื่อชักลากขบวนโบกี้ทั้งหมดเดินทางเข้ากรุงเทพมหานครต่อไป
เมื่อเวลา 16.30 น. วันนี้ (16 ก.ค.) พ.ต.อ.อนันต์ หริกจันทร์ ผกก.สภ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากตำรวจรถไฟว่า มีเหตุลมพายุพัด หรือลมหัวด้วนพัดถล่มทำให้กิ่งไม้ขนาดใหญ่ลอยไปฟาด และทะลุกระจกด้านหน้าของหัวรถจักร ของขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ ส่งผลให้พนักงานขับรถจักรขบวนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ได้พยายามควบคุมขบวนรถเข้าเทียบชานชาลาบริเวณสถานีรถไฟฉวาง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ไว้ได้อย่างปลอดภัย
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เข้าให้การช่วยเหลือ พบขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ จอดเทียบชานชาลาสถานีรถไฟฉวาง โดยมีผู้โดยสารจำนวน 14 โบกี้ อยู่ในอาการตระหนก ขณะที่นายสถานีได้ประกาศแจ้งถึงเหตุการณ์ให้ผู้โดยสารทราบ พร้อมทั้งระบุว่าจะต้องรอให้หัวรถจักรจากสถานีชุมทางทุ่งสงมาสับเปลี่ยนกับหัวรถจักรที่เสียหาย เพื่อลากขบวนต่อไปยังกรุงเทพมหานคร
ส่วนสภาพหัวรถจักรดังกล่าวพบว่า เป็นหมายเลข 4138 กระจกด้านขวามือบริเวณที่ พขร.นังควบคุมขบวนรถไฟแตกทั้งบาน โดยพบว่า ในห้องของ พขร.มีเศษกระจก และเลือดสาดกระเซ็นไปทั่วห้อง และพบท่อนกิ่งไม้ขนาดใหญ่ ความยาวประมาณ 2 เมตร ตกหล่นอยู่ในห้องหัวรถจักรดังกล่าวอีกด้วย
ส่วนผู้บาดเจ็บคือ นายพูลศักดิ์ สุชาติพงศ์ อายุ 40 ปี อยู่ในสภาพแขนขวามีบาดแผลฉกรรจ์เลือดไหลไม่หยุด เจ้าหน้าที่พยายามห้ามเลือดก่อนนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชฉวาง โดยพบว่า นายพูลศักดิ์ มีบาดแผลถูกเศษกระจกบาดที่ข้อมือขวาจนเส้นเอ็นขาด เส้นเลือดได้รับความเสียหาย ซึ่งได้ปฐมพยาบาลในเบื้องต้นก่อนส่งต่อไปยังโรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช เพื่อทำการผ่าตัดต่อเส้นเอ็น
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟรวบรวมข้อมูลได้ความว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลา 13.00 น. นายพูลศักดิ์ คนเจ็บซึ่งทำหน้าที่เป็น พขร. ขบวนรถไฟดังกล่าว นำขบวนรถออกจากสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช มุ่งหน้ากรุงเทพมหานคร โดยมีนายกฤษดา สุขสวัสดิ์ อายุ 30 ปี ทำหน้าที่เป็น พรร.หรือพนักงานรักษารถ นั่งอยู่ข้างๆ ปรากฏว่า ขณะที่ขบวนรถแล่นผ่านบริเวณสะพานโค้ง ก่อนถึงสถานีรถไฟฉวางประมาณ 1 กม.ได้เกิดลมพายุฝนตกลงมาอย่างหนัก ลมพายุพัดรุนแรงจนหักต้นไม้ข้างทางรถไฟล้มระเนระนาด
ทันใดนั้นได้มีเศษกิ่งไม้ขนาดใหญ่ของต้นจามจุรี ขนาดความยาวประมาณ 2 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 นิ้ว ถูกลมพายุพัดปลิวลอยมากระแทกกระจกหัวรถจักรอย่างแรงบริเวณตรงที่นายพูลศักดิ์ จนได้รับบาดเจ็บ แต่ได้พยายามประคองขบวนรถมาจนเทียบชานชาลาสถานีรถไฟฉวางไว้ได้ และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
ขณะที่นายสุวิทย์ ประดิษฐ์ชัย ผช.นายสถานีรถไฟฉวาง ทำหน้าที่นายสถานีรถไฟฉวาง เผยว่า ทางสถานีรถไฟฉวางได้ประกาศให้ผู้โดยสารที่นั่งโดยสารขบวนรถดังกล่าว จำนวน 14 โบกี้ ทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ขบวนรถนี้ไม่สามารถวิ่งต่อไปได้ ซึ่งจำเป็นต้องรอหัวรถจักรจากโรงหัวรถจักรสถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง มาสับเปลี่ยนหัวรถจักรใหม่ เพื่อชักลากขบวนโบกี้ทั้งหมดเดินทางเข้ากรุงเทพมหานครต่อไป