กระบี่ - ชาวบ้านตำบลทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ ร้องมือดีลักลอบทำลายต้นกระถินเทพา ที่ชาวบ้านร่วมกันปลูกมานานกว่า 7 ปี ในเนื้อที่กว่า 10 ไร่ เสียหายจำนวนมาก พบรอยกรานโคนต้นแล้วราดยาฆ่าตอยืนต้นตาย
วันนี้ (14 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ ว่า ต้นไม้ที่ปลูกเพื่อเป็นป่าเฉลิมพระเกียรติฯ ในพื้นที่หมู่ที่ 6 ต.ทับปริก กำลังยืนต้นตายจำนวนมาก จึงเดินทางไปตรวจสอบพบเป็นต้นกระถินเทพา อายุประมาณ 7-10 ปี จำนวนกว่า 30 ต้น มีร่องรอยถูกใช้มีดกรานโคนต้นแล้วราดยาฆ่าตอ บางต้นเริ่มตาย ใบ และเปลือกเริ่มเหี่ยวเฉา เป็นที่น่าเสียดายของผู้ที่พบเห็น
นายนิยม เกิดสุข ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ต.ทับปริก กล่าวว่า ต้นกระถินดังกล่าวชาวบ้านในชุมชนร่วมกับปลูกในพื้นที่กว่า 10 ไร่ รวมกว่า 100 ต้น เมื่อประมาณ 7 ปีที่ผ่านมา เพื่อฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรม เนื่องในโอกาสเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าในความดูแลของชุมชนคลองใหญ่ แต่เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ชาวบ้านพบมีร่องรอยการนำมีดมาตัดฟันกรานลำต้น แล้วราดยาฆ่าตอให้ยืนต้นตายไปแล้วหลายสิบต้น เป็นที่น่าเสียดายเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบในเบื้องต้นยังไม่ทราบว่าใครเป็นคนลงมือทำ และมีจุดประสงค์ใด ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวนอกจากชาวบ้านใช้ประโยชน์แล้ว ทางวัดคลองใหญ่ก็ใช้ประโยชน์อยู่ด้วย เพราะพื้นที่ติดกับวัด และเป็นที่สาธารณะ หลังจากนี้ จะให้ชาวบ้านคอยเฝ้าระวังไม่ให้มีการทำลายเพราะเป็นต้นไม้ของส่วนรวม
วันนี้ (14 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ ว่า ต้นไม้ที่ปลูกเพื่อเป็นป่าเฉลิมพระเกียรติฯ ในพื้นที่หมู่ที่ 6 ต.ทับปริก กำลังยืนต้นตายจำนวนมาก จึงเดินทางไปตรวจสอบพบเป็นต้นกระถินเทพา อายุประมาณ 7-10 ปี จำนวนกว่า 30 ต้น มีร่องรอยถูกใช้มีดกรานโคนต้นแล้วราดยาฆ่าตอ บางต้นเริ่มตาย ใบ และเปลือกเริ่มเหี่ยวเฉา เป็นที่น่าเสียดายของผู้ที่พบเห็น
นายนิยม เกิดสุข ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ต.ทับปริก กล่าวว่า ต้นกระถินดังกล่าวชาวบ้านในชุมชนร่วมกับปลูกในพื้นที่กว่า 10 ไร่ รวมกว่า 100 ต้น เมื่อประมาณ 7 ปีที่ผ่านมา เพื่อฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรม เนื่องในโอกาสเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าในความดูแลของชุมชนคลองใหญ่ แต่เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ชาวบ้านพบมีร่องรอยการนำมีดมาตัดฟันกรานลำต้น แล้วราดยาฆ่าตอให้ยืนต้นตายไปแล้วหลายสิบต้น เป็นที่น่าเสียดายเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบในเบื้องต้นยังไม่ทราบว่าใครเป็นคนลงมือทำ และมีจุดประสงค์ใด ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวนอกจากชาวบ้านใช้ประโยชน์แล้ว ทางวัดคลองใหญ่ก็ใช้ประโยชน์อยู่ด้วย เพราะพื้นที่ติดกับวัด และเป็นที่สาธารณะ หลังจากนี้ จะให้ชาวบ้านคอยเฝ้าระวังไม่ให้มีการทำลายเพราะเป็นต้นไม้ของส่วนรวม