นอภ.ปัตตานีเดินลุยแจกใบปลิวหยุดขาย และเล่นประทัดช่วงรอมฎอน

ปัตตานี - นายอำเภอปัตตานีเอาจริง เดินแจกใบปลิวรณรงค์ให้หยุดจำหน่าย และเล่นประทัดช่วงเดือนรอมฎอน ไม่เช่นนั้นมีโทษตามกฎหมาย

วันนี้ (12 ก.ค.) ที่ตลาดเมืองปัตตานี นายอาภิรัฐ สะมะแอ นายอำเภอเมืองปัตตานี ลงพื้นที่นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองเทศกิจ และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เดินแจกใบปลิวขอความร่วมมือผู้ปกครองให้กำชับบุตรหลานหยุดเล่นประทัดช่วงเดือนรอมฎอน และตรวจค้นร้านค้าที่จำหน่ายประทัด หลังมีชาวบ้าน และผู้ปกครองเด็กร้องเรียนสร้างความรำคาญ เสียงดัง และหวาดกลัว หวั่นผู้ก่อเหตุความไม่สงบสวมรอยวางระเบิดสร้างสถานการณ์ และเพื่อให้พี่น้องมุสลิมสามารถปฏิบัติศาสนกิจได้อย่างสมบูรณ์ในช่วงเดือนรอมฎอน

นายอาภิรัฐ สะมะแอ นายอำเภอเมืองปัตตานี กล่าวว่า เนื่องจากเดือนรอมฎอนเป็นเดือนที่ประเสริฐยิ่ง ที่พี่น้องมุสลิมทั่วโลกมุ่งมั่นในการประกอบคุณงานความดี ปฏิบัติศาสนกิจตามหลักคำสอนด้วยจิตบริสุทธิ์ และเดือนรอมฎอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1434 ตรงกับวันที่ 10 กรกฎาคม 2556 สิ้นสุดประมาณวันที่ 8 สิงหาคม 2556 ทั้งนี้ ห้วงเดือนรอมฎอนในทุกๆ ปีที่ผ่านมา จากการเฝ้าสังเกต รับฟังข้อมูล และจากตรวจสอบในเขตอำเภอเมืองปัตตานี พบว่าในพื้นที่ตำบล หมู่บ้าน มีเด็กเยาวชนเล่นประทัด และดอกไม้เพลิงตลอดเดือน เกิดเสียดังสร้างความเดือดร้อน รำคาญแก่พี่น้องประชาชนที่ถือศีลอด และปฏิบัติศาสนกิจ คือ การละหมาด โดยเฉพาะการละหมาดตารอเวียะห์ จะมีพี่น้องมุสลิมไปละหมาดร่วมกันเป็นจำนวนมากที่มัสยิดในตำบล หรือหมู่บ้าน

อำเภอเมืองปัตตานี จึงขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการร้านค้า และพี่น้องประชาชน ว่าการจำหน่วยดอกไม้เพลิง รวมตลอดถึงพลุ ประทัดไฟ ประทัดลม และวัตถุอื่นใดอันมีสภาพคล้ายคลึงกัน ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 47 ผู้ใดค้าซึ่งดอกไม้เพลิง จะต้องได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนคือ นายอำเภอ ซึ่งใบอนุญาตมีอายุใช้ได้ 1 ปี และมาตรา 77 ระบุว่า ผู้ใดจำหน่ายดอกไม้เพลิงโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำหรับการเล่นดอกไม้เพลิง ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรคพบว่า ในรอบ 5 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.2550-2554 พบผู้บาดเจ็บจากการเล่นพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ ปีละ 517 ราย และสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย ร้อยละ 95 กลุ่มอายุ 10-14 ปี นอกจากเกิดอุบัติเหตุกับตัวเองแล้ว อาจสร้างความเสียหายให้แก่ผู้อื่นด้วย ซึ่งจะมีโทษตามกฎหมายอาญามาตรา 220 มีระหว่างโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 14,000 บาทอีกด้วย