ตรัง - พระลูกวัดสำนักสงฆ์เขาปู่เจ้า แจ้งตำรวจนาโยงให้เข้ามาตรวจสอบ หลังถูกมือดีแอบฉกระฆังทองเหลือง แต่กลับถูกจับในคดียาบ้าเสียเอง อ้างเสพไปเพื่อแก้อาการเจ็บแผลที่ถูกหมากัด
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (3 ก.ค.) พ.ต.ท.อรรถวัฒน์ ดีลา สวป.สภ.นาโยง จ.ตรัง รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ภายในสำนักสงฆ์เขาปู่เจ้า ต.ช่อง อ.นาโยง หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจปราบปราม พร้อมด้วย นายเพียน ชุมสม ใหญ่บ้าน ม.1 และนายการุณย์ ศรีเกตุ กำนัน ต.ช่อง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้ เมื่อไปถึงพบ พระสุรเชษฐ์ ทองลิ่ม อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 158 ม.1 ต.ช่อง อ.นาโยง จ.ตรัง พระลูกวัด และนายสิทธิชัย เปาริกรัตน์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95/1 ม.7 ต.คลองทรายขาว อ.กงหรา จ.พัทลุง โดยทั้ง 2 มีท่าทางพิรุธลักษณะคล้ายเสพยาเสพติด ทางเจ้าหน้าที่จึงได้สอบถามและรับว่าเสพยาบ้ามาแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 กรกฏาคม ทางเจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง จึงเชิญ พระสุรเชษฐ์ ไปให้ พระครูฉิม รองเจ้าอาวาสวัดมงคลสถาน (วัดละมอ) ทำพิธีสึก และควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สภ.นาโยง
นายสุรเชษฐ์ ให้การรับสารภาพว่า ได้บวชเป็นพระลูกวัดที่สำนักสงฆ์ปฏิบัติธรรมเขาปู่เจ้า มาแล้ว 5 พรรษา ส่วนสาเหตุที่ต้องเสพยาบ้าเนื่องจากล่าสุด ได้มีพระที่มาจำพรรษาใหม่ เป็นอัมพาตไม่สามารถเดินได้ และได้ไหว้วานให้ตนไปซื้อยาที่ร้านค้า แต่เมื่อไปถึงก็ได้ถูกสุนัขกัดที่ข้อเท้าขวาจนเป็นแผลฉกรรจ์ หลังจากนั้นก็ได้ไปฉีดยาทำแผลที่โรงพยาบาลนาโยงแล้ว แต่อาการปวด และเจ็บแผลก็ยังไม่ทุเลาดีขึ้น จึงได้ปรึกษากับ นายสิทธิชัย อีก 1 ในผู้ต้องหา ซึ่งเพิ่งเคยเจอกันครั้งแรกในวัดเพื่อหาวิธีทำให้ไม่ต้องทรมานกับการปวดแผลอีก
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอดีตพระสุรเชษฐ์ เกิดนึกขึ้นได้ว่าถ้าเสพยาบ้าแล้วอาการปวดแผลก็จะหาย จึงตัดสินใจให้ นายสิทธิชัย ไปหายาบ้ามาให้ และนำมาแอบเสพกัน 2 คน กระทั่งก่อนถูกจับกุม อดีตพระสุรเชษฐ์ ได้ไปพบว่าระฆังทองเหลืองลูกใหญ่ จำนวน 1 ลูก ภายในสำนักสงฆ์ ได้ถูกมือดีขโมยหายไปนับตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา จึงได้ไปแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ทำท้องถิ่นเดินทางมาตรวจสอบเหตุลักทรัพย์ แต่กลับมาถูกจับกุมในข้อหาเสพยาบ้าเสียแทน เนื่องจากเกิดอาการมึนเมาจนเกิดพิรุธให้เห็น
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (3 ก.ค.) พ.ต.ท.อรรถวัฒน์ ดีลา สวป.สภ.นาโยง จ.ตรัง รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ภายในสำนักสงฆ์เขาปู่เจ้า ต.ช่อง อ.นาโยง หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจปราบปราม พร้อมด้วย นายเพียน ชุมสม ใหญ่บ้าน ม.1 และนายการุณย์ ศรีเกตุ กำนัน ต.ช่อง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้ เมื่อไปถึงพบ พระสุรเชษฐ์ ทองลิ่ม อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 158 ม.1 ต.ช่อง อ.นาโยง จ.ตรัง พระลูกวัด และนายสิทธิชัย เปาริกรัตน์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95/1 ม.7 ต.คลองทรายขาว อ.กงหรา จ.พัทลุง โดยทั้ง 2 มีท่าทางพิรุธลักษณะคล้ายเสพยาเสพติด ทางเจ้าหน้าที่จึงได้สอบถามและรับว่าเสพยาบ้ามาแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 กรกฏาคม ทางเจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง จึงเชิญ พระสุรเชษฐ์ ไปให้ พระครูฉิม รองเจ้าอาวาสวัดมงคลสถาน (วัดละมอ) ทำพิธีสึก และควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สภ.นาโยง
นายสุรเชษฐ์ ให้การรับสารภาพว่า ได้บวชเป็นพระลูกวัดที่สำนักสงฆ์ปฏิบัติธรรมเขาปู่เจ้า มาแล้ว 5 พรรษา ส่วนสาเหตุที่ต้องเสพยาบ้าเนื่องจากล่าสุด ได้มีพระที่มาจำพรรษาใหม่ เป็นอัมพาตไม่สามารถเดินได้ และได้ไหว้วานให้ตนไปซื้อยาที่ร้านค้า แต่เมื่อไปถึงก็ได้ถูกสุนัขกัดที่ข้อเท้าขวาจนเป็นแผลฉกรรจ์ หลังจากนั้นก็ได้ไปฉีดยาทำแผลที่โรงพยาบาลนาโยงแล้ว แต่อาการปวด และเจ็บแผลก็ยังไม่ทุเลาดีขึ้น จึงได้ปรึกษากับ นายสิทธิชัย อีก 1 ในผู้ต้องหา ซึ่งเพิ่งเคยเจอกันครั้งแรกในวัดเพื่อหาวิธีทำให้ไม่ต้องทรมานกับการปวดแผลอีก
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอดีตพระสุรเชษฐ์ เกิดนึกขึ้นได้ว่าถ้าเสพยาบ้าแล้วอาการปวดแผลก็จะหาย จึงตัดสินใจให้ นายสิทธิชัย ไปหายาบ้ามาให้ และนำมาแอบเสพกัน 2 คน กระทั่งก่อนถูกจับกุม อดีตพระสุรเชษฐ์ ได้ไปพบว่าระฆังทองเหลืองลูกใหญ่ จำนวน 1 ลูก ภายในสำนักสงฆ์ ได้ถูกมือดีขโมยหายไปนับตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา จึงได้ไปแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ทำท้องถิ่นเดินทางมาตรวจสอบเหตุลักทรัพย์ แต่กลับมาถูกจับกุมในข้อหาเสพยาบ้าเสียแทน เนื่องจากเกิดอาการมึนเมาจนเกิดพิรุธให้เห็น
