ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ เจ้าของรถหรูทั้ง 14 คัน เดินทางมารับรถคืนแล้ว หลังจากที่เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดากักไว้ที่บริเวณด่านพรมแดนสะเดา ห้ามนำเข้าประเทศเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามพิธีการทางศุลกากร
จากกรณีเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรพรมแดนสะเดา จ.สงขลา ได้กักรถหรู จำนวน 14 คัน ประกอบด้วย ยี่ห้อปอร์เช่ 9 คัน เฟอรารี่ 1 คัน ออร์ดี้ 1 คัน บีเอ็มดับเบิลยู 1 คัน ฮอนด้า 1 คัน และซูบารุ 1 คัน ของนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ขณะเตรียมนำรถทั้ง 14 คัน ขึ้นรถบรรทุกของบริษัท องุ่น AG ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกันกับที่ขนรถหรูแล้วเกิดไฟไหม้ เพื่อเตรียมไปส่งที่พัทยา จ.ชลบุรี ก่อนเดินทางต่อไปยังประเทศกัมพูชา ในรูปแบบของคาราวานการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ แต่ทางด่านศุลกากรพรมแดนสะเดาห้ามเข้าประเทศ เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามพิธีการทางศุลกากร
ล่าสุด นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ซึ่งเป็นเจ้าของรถหรูทั้ง 14 คัน ได้เดินทางมารับรถคืนจากด่านศุลกากรสะเดา และยกเลิกคาราวานการท่องเที่ยวทั้งในประเทศไทย และประเทศกัมพูชาทั้งหมด เนื่องจากรถทั้ง 14 คัน ไม่สามารถนำเข้ามายังประเทศไทยได้ ก่อนที่จะเดินทางกลับประเทศออกไปทางด่านพรมแดนไทย-มาเลเซีย ด้าน อ.สะเดา
โดยทางเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรสะเดา ได้อธิบายถึงเหตุผลที่ไม่สามารถอนุญาตให้นำรถทั้ง 14 คัน เข้าประเทศได้ แม้จะมีเอกสารถูกต้องทุกอย่าง รวมทั้งมีหนังสือรับรองจากสถานทูตไทย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในสิงคโปร์ ว่า เป็นคาราวานการท่องเที่ยว เนื่องจากขั้นตอนการนำรถเข้าประเทศไม่ถูกต้องตามพิธีการศุลกากรที่ต้องมีเงินสด หรือแบงก์การันตี หรือตัวบุคคลค้ำประกัน ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้งหมดเข้าใจดี และพร้อมที่จะเดินทางกลับมาท่องเที่ยวในประเทศไทยอีกครั้ง
ด้านนายประยุทธ มณีโชติ ผู้อำนวยการศุลกากรภาค 4 เปิดเผยว่า กรมศุลกากรมีมาตรการขั้นเด็ดขาดในการตรวจสอบรถหรู หรือรถที่นำเข้ามาในประเทศไทย โดยเฉพาะรูปแบบของการท่องเที่ยว จะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของศุลกากรทุกอย่างไม่มีข้อยกเว้น เพื่อป้องกันการลักลอบนำรถผิดกฏหมาย หรือรถที่ถูกโจรกรรมเข้ามาในประเทศไทย
