ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อเตรียมรับมือ และติดตามสถานการณ์หมอกควันในภาคใต้ พร้อมส่งรถตรวจวัดคุณภาพอากาศเคลื่อนที่ลงมาเพิ่มเติมอีก 2 คัน
วันนี้ (26 มิ.ย.) ที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 16 สงขลา น.ส.อาระยา นันทโพธิเดช รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ได้เรียกประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 14, 15 และ 16 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่จังหวัดสงขลา ภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี เพื่อเตรียมรับสถานการณ์หมอกควันในภาคใต้
เนื่องจากปี 2556 เริ่มพบแนวโน้มการเพิ่มสูงขึ้นของฮอตสปอตทางตอนกลางของเกาะสุมาตรา จนมีจำนวนเกิน 100 จุด เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา และจากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้ควันถูกพัดไปยังประเทศสิงคโปร์ ช่องแคบมะละกา ตอนใต้ของประเทศมาเลเซีย และทะเลจีนใต้ ปริมาณฝุ่นละอองในประเทศสิงคโปร์ และประเทศมาเลเซียอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ
สำหรับทางภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย ได้รับผลกระทบจากหมอกควันข้ามแดน ตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2556 หลายจังหวัดในภาคใต้ตอนล่างเกิดสภาพฟ้าหลัว มีหมอกควันปกคลุม โดยปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กในจังหวัดนราธิวาสสูงสุด 129 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในวันที่ 25 มิถุนายน 2556 อยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ
กรมควบคุมมลพิษ มีสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคใต้ 5 สถานี คือ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภูเก็ต สงขลา นราธิวาส และจังหวัดยะลา รายงานคุณภาพอากาศเป็นรายชั่วโมง และเตรียมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยได้ส่งรถตรวจวัดคุณภาพอากาศเคลื่อนที่ลงมาเพิ่มเติมอีก 2 คัน ไปที่จังหวัดสตูล 1 คัน และที่จังหวัดสงขลา 1 คัน ทดแทนสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ที่ อ.หาดใหญ่ ที่ถูกฟ้าผ่าได้รับความเสียหาย เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา
สำหรับสถานการณ์หมอกควันในวันนี้ (26 มิ.ย.) เนื่องจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันภาคใต้ และอ่าวไทยเริ่มอ่อนกำลังลง ส่งผลให้ปริมาณหมอกควันจากไฟไหม้ป่าทางตอนกลางของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ที่พัดเข้ามายังพื้นที่ภาคใต้ของไทยลดลง รวมทั้งจุดฮอตสปอต หรือจุดที่เกิดไฟไหม้บนเกาะสุมาตราก็ลดลงจาก 437 จุด เหลือเพียง 174 จุด
น.ส.อาระยา นันทโพธิเดช รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า ถ้าเราดูที่ประเทศไทย เมื่อวานนี้ (25 มิ.ย.) มีปัญหามากที่นราธิวาส คุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝุ่นละอองที่มาจากการเผาจะเกินค่ามาตรฐาน จากตรงจุดนี้จะเกินไม่มาก ถ้าจะถามพื้นที่อื่นๆ นอกเหนือจากจังหวัดนราธิวาส จากการวัดอากาศจากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศอีก 4 สถานียังไม่เกิน แต่อย่างไรก็ตาม กรมควบคุมมลพิษไม่ได้นิ่งนอนใจ เราติดตามเหตุการณ์มาตลอดไม่เคยหยุดเลย
สำหรับสถานการณ์หมอกควันในภาคใต้ ณ ขณะนี้ถือว่ายังไม่รุนแรง แต่มันจะยังดีอยู่อย่างนี้ต่อไปถ้าเราร่วมมือกันในประเทศไทย แต่สิ่งที่เราคาดการณ์ไม่ได้ก็คือ ทางอินโดนีเซียจะเป็นอย่างไร ก็คือ จำนวนฮอตสปอต หรือจุดความร้อนต่างๆ ที่เขาเผา มันจะมากขึ้นหรือลดลง และอีกปัจจัยที่เป็นตัวแปร คือ สภาพอุตุนิยมวิทยา ตอนนี้เป็นลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เวลามันพัดขึ้นมันไม่ได้ขึ้นมาตรงๆ บางทีมันก็อ้อมมาก็มาเข้าที่ จ.นราธิวาส อย่างที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้
